C5 Shear
C5 Shear
C5 Shear
ในการรับน้าหนักบรรทุกของคานจะท้าให้เกิดแรงภายในคือโมเมนต์ดัดและแรงเฉือนดังแสดงในรูปที่
5.1 ในการออกแบบหน้าตัดคานมักพิจารณาการดัดก่อนเพื่อให้ได้ขนาดและเหล็กเสริมที่ต้องการเพื่อ
ต้านทานโมเมนต์ดัด จากนันจึงท้าการออกแบบรับแรงเฉือน
(ก) คานช่วงเดี่ยวรับน้าหนักบรรทุก
V
M
เมื่อ y ระยะจากแกนสะเทินของหน้าตัด
Q โมเมนต์ของพืนที่ซึ่งระนาบของหน่วยแรงเฉือนตัดผ่าน
I โมเมนต์อินเนอร์เชียของหน้าตัด
หน่ ว ยแรงที่ต้า แหน่ ง ต่างๆบนคานจะขึ นกั บโมเมนต์ ดัด M และแรงเฉื อน V ซึ่ งมี ค่า แปร
เปลี่ยนไปโดยแสดงได้เป็นแผนภูมิโมเมนต์และแรงเฉือนดังในรูปที่ 5.2 และในแต่ละหน้าตัดยังมีการ
กระจายของหน่วยแรงตามสมการที่ (5.1) และ (5.2) อีกด้วย
+ M
แผนภูมิโมเมนต์ดัด หน่วยแรงดัด
+ V
-
แผนภูมิแรงเฉือน หน่วยแรงเฉือน
รูปที่ 5.2 แผนภูมิแรงภายในคานและการกระจายหน่วยแรง
(ก)
v t=v v t2
t=–v t1
v
v f f
v 1 2
v
t=–v 45o t1
v t=v v t2
(ข) (ค) (ง) (จ)
Tension trajectories
Compression trajectories
(ฉ)
รูปที่ 5.3 วิถขี องหน่วยแรง (Stress Trajectories) ในคาน
ส้าหรับชินส่วนอื่นที่ไม่ได้อยู่บนแกนสะเทินหรือขอบบนล่าง (2) จะมีทังหน่วยแรงเฉือนและ
หน่วยแรงจากการดัดดังแสดงในรูปที่ 5.3(ง) ซึ่งเราอาจหมุนให้เหลือเพียงหน่วยแรงดึงและอัดเรียกว่า
หน่วยแรงหลัก (Principal Stresses) ค้านวณตามวงกลมของมอร์ (รูปที่ 5.4)
f f2
t v2 (5.3)
2 4
v v
t=v
v 1 v v t
90o 45o
45o
v v
(ก) หน่วยแรงเฉือนล้วนที่แกนสะเทิน
(ข) หน่วยแรงและหน่วยแรงดึงบริเวณต่้ากว่าแกนสะเทิน
รูปที่ 5.4 การพิจารณาสภาวะหน่วยแรงโดยวงกลมมอร์
จากรูปที่ 5.4 เราสามารถสรุปได้ว่าหน่วยแรงดึงหลัก t ในแนวทแยงท้ามุม กับแกนของคาน
จะมีขนาดอย่างน้อยสุดเท่ากับ v ในสภาวะการเฉือนล้วนโดยท้ามุม 45o กับแกนคาน (รูปที่ 5.4(ก))
เมื่อมีหน่วยแรงดึง f มากระท้าหน่วยแรงดึง t จะเพิ่มขึนแต่มุม จะน้อยลงกว่า 45o ซึ่งหน่วยแรง
ตามแนวช่วงคานซึ่งมีสัดส่วนของหน่วยแรงเฉือนและหน่วยแรงดึงแตกต่างกันท้าให้มีผลต่อแนวของ
รอยร้าวเอียงดังแสดงในรูปที่ 5.5
การแตกร้าวของคานที่ไม่เสริมเหล็กรับแรงเฉือน
คอนกรีตซึ่งมีก้าลังดึงต่้าจะเกิดการแตกร้าวขึนเมื่อหน่วยแรงดึงมีค่าเกินก้าลังดึง ในคานคอนกรีตซึ่ง
รับน้าหนักบรรทุกนันหน่วยแรงดึงอาจเกิดจากแรงดึงโดยตรง, การดัด, การเฉือน, การบิด, หรือการ
ร่วมกระท้าของแรงเหล่านี ต้าแหน่งและทิศทางของรอยแตกร้าวจะขึนกับหน่วยแรงหลัก (Principal
stress) และมีชื่อเรียกต่างกันไปตามต้าแหน่งและลักษณะของรอยร้าวดังแสดงในรูปที่ 5.6
C
Vcz = shear
resistance
Arm
T
Vd = dowel force
1.50
Vn
b d fc
1.25
ก.ก./ซม.2
1.00 0.93
0.75
0.50 Vn Vn d
0.50 176 0.93 ก.ก./ซม.2
b d fc Mn fc
0.25
Inverse scale
ส้าหรับองค์อาคารที่มีแรงดึงตามแนวแกนร่วมด้วย:
N
Vc 0.53 1 0.029 u fc b w d (5.9)
Ag
กาลังเฉือนของคานเสริมเหล็กรับแรงเฉือน
โดยทั่ว ไปแล้ ว การเสริ มเหล็ กรับแรงเฉือนจะใช้เหล็ กปลอกในแนวดิ่งหรือเหล็ กลู กตัง (Vertical
stirrup) วางเป็นระยะตามแนวคานขึนกับก้าลังที่ต้องการดังแสดงในรูปที่ 5.9(ก) เหล็กที่ใช้จะเป็น
ขนาดเล็กอยู่ระหว่าง 6-12 ม.ม.และมักจะใช้เป็นปลอกปิดดังในรูปที่ 5.9(ข) โดยจะพันรอบเหล็ก
เสริมเหล็กในแนวนอนท้าให้ต้องมีเหล็กนอนอยู่ที่มุมทังสี่เสมอเพื่อยึดเหล็กปลอกให้อยู่ในต้าแหน่งที่
ต้องการ
(ก)
(ข)
รูปที่ 5.9 การใช้เหล็กปลอกตังเพื่อต้านทานแรงเฉือน
ก้าลังเฉือนทังหมดของคานที่มีการเสริมเหล็กรับแรงเฉือน Vn จะมาจากคอนกรีต Vc ส่วนหนึ่งและ
อีกส่วนมาจากการเสริมเหล็กรับแรงเฉือน Vs :
Vn Vc Vs (5.10)
s s s
d
d
Av 2As
ขีดจากัดของปริมาณเหล็กรับแรงเฉือน
เหล็กรับแรงเฉือนน้อยที่สดุ
ปริมาณของเหล็กรับแรงเฉือนต้องไม่มากหรือน้อยจนเกินไปเพื่อให้มั่นใจจะเกิดการครากของเหล็ก
เมื่อถึงก้าลังเฉือนวิบัติ ACI Code ต้องการให้ปริมาณเหล็กรับแรงเฉือนน้อยที่สุดเท่ากับ
bw s b s
min Av 0.2 fc 3.5 w (5.12)
fy fy
พืนและฐานราก
พืนคอนกรีตระบบตง(Floor joist construction)
คานซึ่งมีความลึกไม่เกิน 25 ซม., 2.5 เท่าความหนาปีกส้าหรับคานรูปตัว T, หรือ ครึ่งหนึ่งของ
ความกว้างเอว, เลือกค่าที่มากกว่า
จากสมการ (5.12) จะเห็ น ว่ า ถ้ า 0.2 fc 3.5 จะได้ f 306 ก.ก./ซม. 2 นั่ น คื อ เมื่ อ
c
เหล็กรับแรงเฉือนมากที่สดุ
เพื่อป้องกันการวิบัติแบบ shear-compression ซึ่งคอนกรีตจะถูกบดอัดจนพังทลายด้วยแรงอัดที่
บริเวณวิกฤตที่ส่วนบนของรอยร้าวทแยง ACI ก้าหนดให้ Vs ต้องมีค่าไม่เกิน 2.1 fc bwd ถ้าเกิน
ต้องเพิ่มขนาดหน้าตัดเพื่อให้ V V / V มีค่าน้อยลงจนไม่เกินขีดจ้ากัด
s u c
ระยะห่างเหล็กปลอกมากที่สุด
นอกจากค่า smax ที่ค้านวณจากสมการ (5.13) แล้ว ACI ยังก้าหนดค่าระยะห่างเหล็กปลอกมาก
ที่สุด smax = d/2 และไม่น้ อยกว่า 60 ซม. และเมื่อ Vs มีค่าเกิน 1.1 fc bwd ให้ลดค่า smax นีลง
ครึ่งหนึ่ง ดังนัน
(ก) การแตกร้าวจากการเฉือนในคาน
d d
d d
(ข) แผนภูมิแรงเฉือน
รูปที่ 5.12 แรงเฉือนประลัย Vu ที่ใช้ในการออกแบบ
d d
หน้าตัดวิกฤต
Vu
Vu Vu
หน้าตัดวิกฤต
Vu
Vu
d
หน้าตัดวิกฤต
(ง) คานที่มีน้าหนักกระท้า
(ค) คานรองรับโดยแรงดึง เป็นจุดใกล้ที่รองรับ
รูปที่ 5.13 หน้าตัดวิกฤตส้าหรับออกแบบการเฉือนแบบต่างๆ
RC SDM 5 Shear By Dr.Mongkol JIRAWACHARADET 110
แรงเฉือนที่กลางช่วงของคานรับนาหนักแผ่
ในอาคารปกติน้าหนักบรรทุกคงที่และน้าหนักบรรทุกจรจะถูกสมมุติเป็นน้าหนักแผ่คงที่ น้าหนัก
บรรทุกคงที่ซึ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงจะแผ่ลงตลอดทังช่วงคาน แต่น้าหนักจรนันอาจแผ่เต็มช่วงดังใน
รูปที่ 5.14(ก) ซึ่งจะท้าให้ค่าแรงเฉือนที่ปลายมีค่ามากที่สุด หรืออาจแผ่ครึ่งช่วงดังในรูปที่ 5.14(ข) ซึ่ง
จะให้ แรงเฉือนที่กลางช่วงมากที่สุ ด ส่ว นแรงเฉือนที่หน้าตั ดอื่นจะประมาณโดยใช้ shear force
envelope ดังในรูป 5.14(ค)
แรงเฉือนที่กลางช่วงคานเนื่องจากน้าหนักจรครึ่งช่วงคานคือ
wLuL
Vu,midspan (5.14)
8
wu L
Vu
LL full span 2
DL full span
wLu L
LL half span Vu
DL full span 8
ขันตอนการออกแบบเพื่อรับแรงเฉือน
ในการออกแบบหน้าตัดรับแรงเฉือนเพื่อให้มีก้าลังเฉือนเพียงพอเพื่อรับแรงเฉือนประลัยที่เกิดขึนคือ
Vn Vu (5.15)
2. ค้านวณก้าลังเฉือนคอนกรีต ส่วนใหญ่จะใช้สูตรอย่างง่ายคือ
Vc 0.53 fc bw d (5.17)
3. ค้านวณก้าลังเฉือนที่ต้องการจากเหล็กปลอก
Vs Vn Vc (5.18)
4. ตรวจสอบก้าลังเฉือนมากที่สุด ว่าหน้าตัดมีขนาดจะรับได้หรือไม่?
Vs 2.1 fc bw d (5.19)
6. ระยะห่างเหล็กปลอกมากที่สุดจากปริมาณเหล็กเสริมรับแรงเฉือนน้อยที่สุด
A v fy A v fy
smax (5.21)
0.2 fc bw 3.5bw
7. ระยะห่างเหล็กปลอกมากที่สุดตามค่า Vs
เมื่อ Vs 1.1 fc bw d ให้ใช้ค่า smax d / 2 60 ซม.
ตั วอย่า งที่ 5.1 ออกแบบเหล็ กปลอกรับแรงเฉือนในคานช่ว งเดี่ ยวดังแสดงในรู ปที่ 5.15 ก้าลั ง
คอนกรีต f = 280 ก.ก./ซม.2 ใช้เหล็กปลอก DB10 ก้าลังเหล็กเสริมรับการดัด 4,000 ก.ก./ซม.2
c
PL = 5 tons PL = 5 tons
PD = 2 tons PD = 2 tons
d = 53 cm
wL = 3 t/m
A wD = 2 t/m
A
40 cm
2.5 m 4.0 m 2.5 m Section A-A
15.8 ton
4m 2.5 m
2.5 m
-15.8 ton
-27.1 ton
2. คานวณกาลังเฉือนคอนกรีต Vc
Vc 0.53 fc bw d 0.53 280 40 53 / 1,000 18.80 ตัน
3. คานวณกาลังเฉือนที่ต้องการจากเหล็กปลอก Vs
Vs Vu / Vc 48.80 18.80 30.00 ตัน
4. คานวณกาลังเฉือน Vs มากที่สุด ว่าหน้าตัดมีขนาดเพียงพอหรือไม่?
Vs,max 2.1 fc bw d 2.1 280 40 53 / 1,000 74.50 ตัน
เนื่องจาก Vs ที่ต้องการที่ระยะ d 30.00 ตัน มีค่าไม่เกิน Vs, max 74.50 ตัน
ดังนันหน้าตัดมีขนาดเพียงพอ
ตรวจสอบ 1.1 fc bw d 1.1 280 40 53 / 1,000 39.02 ตัน Vs
5. คานวณระยะห่างเหล็กปลอกที่ต้องการ
ลองใช้ DB10 ปลอกปิด(สองขา) Av = 2(0.785) = 1.57 ซม.2 และ fy = 4,000 ก.ก./ซม.2
ระยะห่างเหล็กปลอกที่ต้องการที่ระยะ d จากผิวของจุดรองรับคือ
Av fy d 1.57 4.0 53
s 11 ซม.
Vs 30.00
Av fy 1.57 4,000
และ smax 45 ซม. smax 45 ซม.
3.5bw 3.5 40
L = 10 m
30 cm
2. คานวณกาลังเฉือนคอนกรีต Vc
Vc 0.53 fc bw d 0.53 250 30 64 / 1,000 16.09 ตัน
เขียนแรงเฉือนที่หน้าตัดวิกฤตและก้าลังเฉือนคอนกรีตลงใน shear force envelope พืนที่ส่วน
ที่เกิน Vc ขึนมาคือ Vs คือส่วนที่ต้องการเหล็กปลอกมาช่วยรับแรงเฉือน บางช่วงของคานแม้ไม่
ต้องการ Vs ก็ยังคงต้องใส่เหล็กปลอกในปริมาณน้อยที่สุด ดังแสดงในรูปที่ 5.20
41.47 t 84 cm Critical section
35.55 t
Required Vs
6.09 t
Vu /
Vc 8.05 t
.5Vc 6.25 t
Support Midspan
เนื่องจาก Vs 1.1 fc bw d ดังนัน smax = d/2 = 64/2 = 32 ซม. < 60 ซม.
5. คานวณระยะห่างเหล็กปลอกที่ต้องการ
ลองใช้ RB9 ปลอกปิด(สองขา) Av = 2(0.636) = 1.27 ซม.2 และ fy = 2,400 ก.ก./ซม.2
ระยะห่างเหล็กปลอกที่ต้องการที่ระยะ d จากผิวของจุดรองรับคือ
Av fy d 1.27 2.4 64
s 10.02 ซม.
Vs 19.46
Av fy 1.27 2,400
และ smax 29 ซม. smax 29 ซม.
3.5bw 3.5 30
s = 15 cm @ s = 29 cm @
x = 140 cm x = 239 cm
ปัญหาท้ายบทที่ 5
5.1 คานช่วงเดี่ยวมีระยะช่วงยาว ln = 6.7 ม. รองรับน้าหนักบรรทุกแผ่คงที่ wD = 1.6 ตัน/ม. และ
น้าหนักจร wL = 1.2 ตัน/ม. จงค้านวณแรงเฉือนประลัยที่หน้าตัดวิกฤต Vu และออกแบบ
ขนาดและระยะห่างเหล็กปลอกโดยใช้เหล็ก SR24 (fy = 2,400 ก.ก./ซม.2) หรือ SD40 (fy
= 4,000 ก.ก./ซม.2) ก้าหนด: bw = 30 ซม. d = 43 ซม. และ f = 280 ก.ก./ซม.2
c
ก.ก./ซม.2
Vu Beam CL
Vu
Vu
Vc
.5 m
d= cm
cm
m
CL of span
Vu
t
5.7 ส้ า หรั บ คานช่ว งเดี่ ย วดัง ในรูป ข้า งล่ า ง ระยะช่ว งคานหั กความกว้า งจุด รองรั บ 9.7 เมตร
น้ า หนั ก บรรทุ ก คงที่ แ บบแผ่ 3.2 ตั น /ม . (รวมน้ า หนั ก คาน) และน้ า หนั ก จร 5 ตั น /ม . จง
ออกแบบเหล็ ก ปลอกเพื่อ รองรั บแรงเฉือ นในคาน ก้ า หนด : f = 240 กก./ซม.2 และ fy =
c
4,000 กก./ซม.2
cm
cm
cm
cm
m m