Worksheet M.3

English Worksheets
M.3
Name: ..............................................
Class: ........................ No. ................
School: .............................................
M.3
Subject - Verb Agreement
Agreement of Object and Verb คือ การใช้รูปกริยาให้สอดคล้องกับประธาน

ของประโยค ซึ่งจะอยู่ในรูปของคำนามหรือคำสรรพนามหรืออาการนาม เป็นต้น
โดยเกี่ยวข้องกับพจน์ ของประธานนั้ นๆ ด้วย หลักทั่วไป คือ ถ้าประธาน
เป็นเอกพจน์ กริยาก็ต้องเป็นเอกพจน์ และถ้าประธานเป็นพหูพจน์ กริยาก็ต้อง
เป็นพหูพจน์
หลักสำคัญ คือ พิจารณาประธานของประโยค โดยมีข้อสังเกตดังนี้
ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ กริยาที่ใช้ในประโยคก็ต้องเป็นเอกพจน์ด้วย
ประธานเอกพจน์ + กริยาเอกพจน์
เช่น Leena is a student.
ถ้าประธานเป็นพหูพจน์ กริยาที่ใช้ในประโยคก็ต้องเป็นพหูพจน์ด้วย
ประธานพหูพจน์ + กริยาพหูพจน์
เช่น Cats are domestic animals.
เมื่อประธานมี 2 ตัว และมี and เป็นตัวเชื่อม
เมื่อประธานเอกพจน์ + and + ประธานเอกพจน์ ซึ่งเห็นชัดเจนว่า

เป็นคนละคน ให้ใช้กริยาเป็นพหูพจน์
ประธานเอกพจน์ + and + ประธานเอกพจน์ + กริยาพหูพจน์

เช่น Tony and Jane live in the same house.
เมื่อประธานเอกพจน์ + and + ประธานเอกพจน์ ซึ่งมีความหมาย

รวมเป็นสิ่งเดียวกันหรือใช้ไปด้วยกัน โดยถือว่าเป็น 1 หน่ วย
หรือรวมเป็นหน่ วยเดียวกัน เช่น Bread and butter, Rice and curry,
Truth and honesty, Ice-cream and cake เป็นต้น
ให้ถือว่าประธานเป็นเอกพจน์ ให้ใช้กริยาเป็นเอกพจน์
ประธานเอกพจน์ + and + ประธานเอกพจน์ + กริยาเอกพจน์

เช่น Whisky and soda is his drink.
(ข้อ 2 มีต่อนะคะ)
M.3
เมื่อประธานเป็นคำนามเอกพจน์ + and + คำนามเอกพจน์ โดยที่มี Article

นำหน้ า ตัวแรกแต่คำนามตัวที่ 2 ไม่มี Article นำหน้ า แสดงว่าคำนาม
ทั้ง 2 นั้ น เป็นบุคคลคนเดียวกัน หรือ ตัวเดียวกัน ให้ถือว่าประธานเป็น
เอกพจน์ ดังนั้ นกริยาก็ต้องเป็นเอกพจน์ ด้วย
The + คำนามเอกพจน์ + and + คำนามเอกพจน์ + กริยาเอกพจน์

เช่น The cooker and owner is a young boy.
ถ้าประธานเป็นคำนามเอกพจน์ ทั้งสองคำโดยมี Article นำหน้ าทั้ง 2 คำ

และมี and เชื่อมระหว่างคำ แสดงว่าคำนามทั้ง 2 นั้ น เป็นบุคคลคนละคน
กัน ให้ถือว่าประธานเป็นพหูพจน์ ดังนั้ นกริยาก็ต้องเป็นพหูพจน์ ด้วย
The + คำนามเอกพจน์ + and + the + คำนามเอกพจน์ + กริยาพหูพจน์

เช่น The cooker and the owner are friends.
ให้สังเกตว่าถ้าประธานเป็นคำนามเอกพจน์ โดยมีคำคุณศัพท์ขยาย
อยู่ข้างหน้ า 2 คำ ซึ่งหน้ าคำคุณศัพท์ตัวแรกจะมี Article นำหน้ าเพียงตัว
เดียวแต่หน้ าคำคุณศัพท์ตัวที่สองไม่มี แสดงว่า คำนามหรือประธานตัวนั้ น
เป็นเอกพจน์ ดังนั้ นกริยาก็ต้องเป็นเอกพจน์ ด้วย
A + คำคุณศั พท์ + and + คำคุณศั พท์ + คำนามเอกพจน์ + กริยาเอกพจน์

เช่น A blue and green bird is sleeping in its nest.
ถ้าคำคุณศัพท์ทั้ง 2 มี Aricle นำหน้ าทั้งคู่ แสดงว่าประธานนั้ นเป็น

พหูพจน์ ดังนั้ นกริยาก็ต้องเป็นพหูพจน์ ด้วย
A + คำคุณศั พท์ + and + a + คำคุณศั พท์ + คำนามเอกพจน์ + กริยาพหูพจน์

เช่น A blue and a green bird are sleeping in their nest.
M.3
ให้สังเกตการใช้ Here และ There ขึ้นต้นประโยค

เมื่อใช้ There + V.to be ในความหมายว่า "มี" ให้ใช้กริยาเอกพจน์หรือ
กริยาพหูพจน์ โดยดูจากคำนามที่ตามหลัง
There + is + คำนามเอกพจน์
เช่น There is not any interesting news on this page.
There + are + คำนามพหูพจน์

เช่น There are not any interesting pictures on this page.
เมื่อใช้ Here และ There ในรูปประโยคอุทานก็ให้ใช้กริยาตามพจน์

ของคำนามหรือประธานที่ตามหลัง ให้สังเกตการเรียงคำ
Here กริยาเอกพจน์ + คำนามเอกพจน์!
There กริยาพหูพจน์ + คำนามพหูพจน์!
เช่น
Here comes your child!
There come your students!
Here is the book!
ประธานของประโยคเป็นคำสรรพนาม ให้เรียงเอาคำสรรพนามที่เป็น
ประธานไว้หน้าคำกริยา แต่ยังคงยึดหลักรูปกริยาเอกพจน์หรือพหูพจน์ตาม
พจน์ของสรรพนามนั้น
Here สรรพนามเอกพจน์ + กริยาเอกพจน์!
There สรรพนามพหูพจน์ + กริยาพหูพจน์!
เช่น
There he comes!
Here they are!
....................................................................
.....................................................................
.....................................................................
.....................................................................
......................................................................
M.3
เมื่อประธานของประโยคมี วลีหรือกลุ่มคำขยายตามหลัง ซึ่งไม่มีส่วน

ทำให้ประธานนั้นเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ โดยเป็นเพียงมาขยายประธานเท่านั้น
เมื่อประธาน + of + คำนาม ให้ยึดประธานหน้าประโยคเป็นหลัก
A box of chalk is on the teacher's table.

A kilo of oranges is 80 baht.
Two bottles of water are cold.
เมื่อประธานเชื่อมด้วย a with, together with, as well as, along with, including,

accompanied by, like (เหมือน), in addition to ให้ดูคำนามตัวแรกที่ทำหน้ าที่
เป็นประธานตัวจริงเป็นหลัก
Tom with his brothers is playing football,

I, as well as, my son likes cookies.
We together with Tony are walking in the park.
เมื่อมีประโยค Relative Clause มาขยาย กริยาที่ใช้ให้ใช้ตามคำนามที่ Relative

Pronoun ไปขยายตามหลัง (Relative Pronouns ได้แก่ who, whom, which,
that เป็นต้น)
Tom who has the shortest hair is my hero.
We don't trust people who tell lies.
ถ้าหน้ าคำ Relative Pronoun นั้ นมี one of the + คำนามพหูพจน์

กริยาที่ใช้จะต้องอยู่ในรูปพหูพจน์ เช่น
Sleeping Beauty is one of the tales that were sold out quickly.
แต่ถ้าหน้ าคำ Relative Pronoun นั้ นมี the only one of + คำนามพหูพจน์
กริยาที่ใช้จะต้องอยู่ในรูปเอกพจน์ เช่น
Sleeping Beauty is the only one of the tales that has seven dwarfs.
M.3
การใช้คำว่า number นำหน้าคำนามให้ดู Article เป็นหลัก

ใช้ A number of + นามพหูพจน์ จะใช้กริยาในรูปพหูพจน์
A number of books are in the big box.

(ในความหมายว่า = กลุ่มหนึ่ ง ซึ่งมีจำนวนมากกว่าหนึ่ ง)
ใช้ The number of + นามพหูพจน์ จะใช้กริยาในรูปเอกพจน์
The number of members in this club is up to one hundred.

(ในความหมายว่า = จำนวนของ ซึ่งมี 1 หน่ วย)
คำสรรพนามผสมที่ไม่ชี้เฉพาะเจาะจงของ -one, -body, -thing, -where,

ได้แก่ somebody, something, somewhere, anyone, anybody, anything,
anywhere, no one, nobody, nothing, nowhere, everyone, everybody,
everything, everywhere สรรพนามเหล่านี้ เมื่อขึ้นต้นเป็นประธาน
ของประโยคจะมีค่าเป็นเอกพจน์ ดังนั้ นกริยาต้องเป็นเอกพจน์
Someone is knocking at the front door.

Everybody wears the uniform.
Nothing is out - of - date (ล้าสมัย).
คำนามที่มีความหมายเป็นกลุ่ม (Collective Noun) ได้แก่ family, band,

army, audience, team, class, government เป็นต้น เมื่อเป็นประธานของ
ประโยค กริยาที่ใช้นั้ นอาจเป็นเอกพจน์ หรือ พหูพจน์ ก็ได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ
ความหมายของประธาน
ถ้าประธานมีความหมายถึงหน่ วยเดียว กริยาจะเป็นเอกพจน์ สรรพนามคือ It
ถ้าประธานมีความหมายถึงสมาชิกแต่ละคนในกลุ่ม กริยาจะเป็นพหูพจน์
สรรพนามคือ They
เช่น Our family lives in that house.

Our family are doing our duties in the house.
The class is in the hall now.
The class are doing their own homework.
M.3
ให้สังเกตการใช้คำต่อไปนี้ คือ each, every, one of, a little, much, one,

many a, either, neither, the other และ another คำเหล่านี้ เมื่ออยู่ใน
ตำแหน่ งของประธานจะต้องใช้กริยาเป็นเอกพจน์ เสมอ
การใช้คำต่อไปนี้ ได้แก่ both, many, several, a few คำเหล่านี้ เมื่ออยู่ใน

ตำแหน่ งประธานของประโยค จะใช้ประกอบหน้ าคำนามพหูพจน์ หรือใช้
ในรูปสรรพนามที่มีความหมายพหูพจน์ ดังนั้ นกริยาของประโยคก็ต้อง
เป็นพหูพจน์ ด้วย
Many
Several
+ คำนามพหูพจน์ + กริยาพหูพจน์
A few (ถ้าเป็นสรรพนามจะไม่มีคำนามตามหลัง)
Both
(จำนวน 2)
การใช้คำบอกจำนวนที่ใช้ได้ทั้งคำนามนั บได้และนั บไม่ได้ ได้แก่

some, all, most of, a lot of, any เป็นต้น ดังนั้ นกริยาจะเป็นเอกพจน์
หรือพหูพจน์ ก็ได้
Most (of the)

A lot of
+ คำนามพหูพจน์ + กริยาพหูพจน์
Some (of the)
All (of the)
Most (of the)

A lot of
+ คำนามนั บไม่ได้ + กริยาเอกพจน์
Some (of the)
All (of the)
M.3
คำนามบางคำมีรูปเป็นเอกพจน์ แต่มีความหมายเป็นพหูพจน์ ได้แก่ people, police,

public, cattle, folk, clergy, majority เป็นต้น ดังนั้ นกริยาก็ต้องเป็นพหูพจน์ ด้วย
The cattle are in the ranch.

The police have guns.
คำนามบางคำมีรูปเดียวกันทั้งเอกพจน์ และพหูพจน์ ได้แก่ fish, deer, sheep,

cod, swine, salmon, aircraft, species เช่น
Our aircraft were destroyed by the enemies (ศัตรู).
A female deer is a doe (สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมเพศเมีย).
Most male deer have antlers (เขาที่เป็นกิ่ง).
คำนามบางคำมีรูปเติม s, es แต่ใช้ในรูปคำนามเอกพจน์ ได้แก่ วิชาต่างๆ

(เช่น mathematics, physics, statistics, linguistics, economics เป็นต้น)
*** คำเหล่านี้ ถ้าใช้ในการชี้เฉพาะเจาะจงหรือเป็นแนวความคิดทั่วไป จะใช้กริยา

เป็นพหูพจน์ เช่น Leena's politics are modern. = แนวความคิดทางด้านการเมือง
ของลีน่ าทันสมัยมาก ***
ชื่อโรคต่างๆ (เช่น mumps (คางทูม), measles (โรคหัด) เป็นต้น) และยังมีคำที่มัก

พบบ่อยๆ ได้แก่ news (ข่าว), cross-roads (สี่แยก), the United States,
ashes (ขี้เถ้า) เป็นต้น คำนามเหล่านี้ จะใช้ร่วมกับกริยาเอกพจน์
Bad news is never happy.

Measles is a very dangerous disease for children.
Physics is my favorite subject.
เมื่อเราใช้ Article "the" นำหน้ คำคุณศัพท์ ซึ่งทำให้คำคุณศัพท์กลาย

เป็นคำนามพหูพจน์ ในความหมายว่า พวก the poor, the rich, the blind,
the old, the young, the deaf เป็นต้น ดังนั้นกริยาก็ต้องเป็นพหูพจน์ด้วย
The + คำคุณศั พท์ + กริยาพหูพจน์ เช่น

The poor are very pitiful (น่ าสงสาร).
The old always think about the past.
M.3
คำนามที่เกี่ยวกับชื่อหนั งสือ, น้ำหนั ก, เงิน, ระยะทางหรือเวลาที่อยู่ในรูป

พหูพจน์ เช่น The Arabian Night, The Little Women, Weeks, dollars, miles,
kilometres โดยมีคำนำหน้ าเป็นคำบอกจำนวนหรือตัวเลข ให้ถือว่าเป็นประธาน
เอกพจน์ (เพราะมีความหมายเป็นหนึ่ งหน่วย) ดังนั้นกริยาที่ใช้ก็ต้องเป็น
เอกพจน์ด้วย
The Little Women is a well-known book.

Two weeks seems like two years for me.
A hundred dollars is not much for him to pay.
คำนามบางคำจะต้องใช้ในรูปพหูพจน์ เสมอ เพราะไม่มีรูปเอกพจน์ จึงเป็น

ประธานพหูพจน์ และต้องใช้กับกริยาพหูพจน์ เช่น shoes, shorts, trousers,
glasses (แว่นตา) เป็นต้น แต่ถ้าเมื่อใดมีคำนำหน้ าว่า a pair of + คำนาม
พหูพจน์ ซึ่งใช้ในความหมายว่า หนึ่ งคู่ มักจะใช้กับคำนามที่ต้องใช้เป็นคู่กัน
จะต้องใช้กริยาเป็นเอกพจน์
My shoes are black and white.
A pair of shoes is in the box.
คำนามที่เป็น Abstract Noun คือคำนามที่บอกอาการ คุณลักษณะ

สภาพ ความรู้สึก สถานะ หรือการกระทำของคน, สัตว์ สิ่งของต่างๆ เช่น
happiness, cleverness, beauty, honesty, prevention, death, knowledge,
speech, decision, dinking, truth, poverty (ความยากจน), childhood,
friendship, music, Engish เป็นต้น คำเหล่านี้ จัดว่าเป็นคำนามนับไม่ได้ชนิด
หนึ่ ง เมื่อนำมาเป็นประธานของประโยคจะมีความหมายเป็นเอกพจน์ ดังนั้น
กริยาก็ต้องเป็นเอกพจน์ด้วย
Safety first comes for our company.

Her childhood is very happy.
Beauty is important for women.
M.3
คำนามที่เป็นลักษณะของวัตถุนาม มวลสารที่อยู่กันเป็นกลุ่มก้อน ของเหลว

อากาศ เป็นเมล็ดเล็กๆ ที่เราไม่นิ ยมจะนั บ คำนามเหล่านี้ จัดเป็นคำนามที่นั บไม่
ได้ชนิ ดหนึ่ งเหมือนอาการนาม ดังนั้ น คำนามใดที่เป็นคำนามนับไม่ได้จะมีค่า
เป็นเอกพจน์เสมอ ได้แก่ water, money, honey, copper, iron, rice, soil,
sugar, sand, salt, paper, bread, air, chalk, wood, soap เป็นต้น
Gold is more valuable than copper.

A little salt makes this soup delicious.
Some chalk is on the teacher's desk.
คำที่เป็นนามสมมูล (Noun-Equlvalent) คือคำหรือกลุ่มคำ ซึ่งไม่ใช่คำนาม

แต่ถูกนำมาใช้เสมือนเป็นคำนาม ได้แก่ คำกริยาที่มี to นำหน้า (Ininitive
ที่มี to) หรือรูปกริยา Gerund เติม -ing) เช่น to walk, to eat, to
exercise, to sleep, sleeping, jogging, reading เป็นต้น
Jogging in the morning is good for health.

To have enough sleep is necessary for health, too.
หากประธานของประโยคมีคำนามมากกว่าหนึ่ งขึ้นไป โดยมีคำเชื่อมด้วย

or, nor, either-or, neither-nor, not only - but also กริยาที่ใช้ตามหลัง
ให้ยึดคำนามที่อยู่ติดกับกริยานั้ นเป็นหลัก คือ ใช้กริยาตามประธานตัวหลัง
My friends or I am the winner.

Tom or his brothers are playing football.
Either Tom or I have done the work.
or, nor,
ประธาน + either ____ or + ประธาน + กริยาตามประธานตัวหลัง
(ตัวแรก) neither____ nor (ตัวหลัง) (และใช้สรรพนามตามตัวหลังด้วย)
not only ____ but also
Present Simple Tense ถ้าประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 กริยาที่ใช้

จะต้องเติม s, es แต่ ถ้าประธานเป็นพหูพจน์ และ I กริยาที่ใช้จะเป็น
V1 ที่ไม่ต้องเติม s, es
Tony likes music.
I like oranges.
M.3
Name: .................................................. Class. .... No. ... Date: ..................
Direction : Choose the best answer.
1. The women (is, are, was) swimming in the pool.
2. You and I (is, am, are) students of this school.
3. A boy and a girl (is working, works, are working) together.
4. One of the workers (is, are, were) in the danger.
5. The foreigners from Canada (like, likes, is like) to eat
Thai food.
6. Economics (is, was, were) my major field when I studied
in the university.
7. Tom or Tony (wear, is wearing, are wearing) blue jeans.
8. Everyone (is, are, was, were) very happy last night.
9. Two hundred kilometres (is, are, were) too far for
our old car.
10. The English (has, have, had) tea every day.
11. Both Tom and Ted (go, goes, is going) to the same school.
12. The blind (walk, walks, walked) with walking sticks.
13. Her story about friends (is, am, are) very boring.
14. Good news (is, are, were) very happy and bad news
(is, are, were) very sad.
15. A kilo of mangoes (cost, costs, costed) fifty baht.

M.3
1. The characters of the play (play, plays, are playing)

very well on the stage now.
2. A few books (is, am, are) on the top shelf.
3. Neither Jane nor her sisters (sleep, sleeps, is sleeping)
in their bedrooms.
4. I, as well as, my friends (am, is, are) a nurse.
5. Jogging in the morning (make, makes, is) me healthy.
6. The people in the hall (dances, has danced, are dancing)
joyfully.
7. The price of the clothes (is, are, cost) very expensive.
8. Mrs. Andy with her dogs always (swim, swims, swam) in
the lake.
9. The lake and the pond (is, are, was) near the house.
10. The school football team (is, are, were) playing
as best as they
11. Several deer (is, are, was) running one by one.
12. The number of cars in the parking-lot (is, are, were) 25.
13. A number of vegetables (is, are, was) eaten by them.
14. Children (drink, drinks, drank) milk before going to bed
every night.
15. The owner and gardener (is, am, are) planting
in that garden.
M.3
1. Neither of the students ______ 15 years old.

a. is b. are c. has d. have
2. Either the parents or the child ____ quickly in order not to

miss the meeting.
a. walk b. walking c. are walking d. walks
3. Either of you _____ the winner.

a. is b. are c. were d. had
4. The Rakthai family _____ on Phahon Yothin Road in Bangkok.

a. lives b. live c. lived d. are living
5. She, as well as, you _____ the report very well.

a. write b. writes c. writing d. are writing
6. Every _____ on his duty in the company.

a. workers is b. worker are c. worker is d. workers are
7. Not only I but also my brother _____ watching TV.

a. is b. am c. are d. were
8. Neither the table nor the chairs _____ put on the grass
because it is raining hard.
a. is b. was c. are d. were
9. Each of the girls _____ about her career every day.

a. think b. thinks c. is thinking d. are thinking
10. Few ______ take care themselves.

a. has to b. have to c. doesn't have to d. doesn't
M.3
Infinitive and Gerund
Direction : Write the correct form of verbs..
1. It time ____________ (work) hard for our family now.

2. I can't afford _____________ (pay) for that room.
3. It won't cost you a lot ____________ (fly) to Chiangmai.
4. She asked me not _____________ (leave) her alone.
5. I am telling Tony not _____________ (argue) any more.
6. Is that soup good _____________ (eat)?
7. Joey came ______________ (work) with me in 2018.
8. It started ______________ (rain) last two weeks.
9. Since I returned from abroad, I have earned my own
living by _______________ (teach).
10. There's nothing more ______________ (do) here for us.
11. She might ______________ (get) this job soon.
12. I'm thirsty. I'd like something _____________ (drink).
13. Jack is a pity man. He can neither ____________ (speak)
or nor ___________ (see). He is dumb and blind.
14. I saw her. She was crossing the street. I want __________
(tell) you that I saw her ___________ (cross) the street.
15. Peter had a carpenter _____________ (repair) his house's
door yesterday.
16. Peter got a carpenter ____________ (repair) his house's
door yesterday.
17. I allow my children _____________ (stay) up late tonight.
18. She let him _______________ (change) his mind.
19. That bad news made me _______________ (cry) very hard.
20. Let's _______________ (play) hide-and-seek around the park.
M.3
Direction : Write the correct form of verbs..
1. Do you mind _____________ (smoke) outside the room?

2. Anna avoided ____________ (see) Peter at the meeting.
3. Do you need ____________ (study) French in this term?
4. I think you needn't _______________ (study) it.
5. It's no need for me _______________ (study) it.
6. Tom needs _______________ (study) but Joy doesn't.
7. It's no use ______________ (work) hard any more.
8. It's not worth _____________(remember).
9. Nothing can _________ (make) you ________ (get) up early.
10. I suggested ___________ (do) good things to everybody.
11. I'm pleased ___________ (meet) all of you.
12. Thank you for ___________ (move) that table.
13. I'm thinking of ____________ (move) to a new house.
14. These mangoes are not ripe enough _____________ (eat).
15. Her _________ (sit) up late every night is not good for her
health.
16. It's starting ___________ (rain) hard.
17. We'd prefer _____________ (hear) her ___________ (sing).
18. I prefer ___________ (go) out to __________ (stay) at home
on Sundays.
19. I'd love ______________ (see) your smile every day.
20. I teach ___________ (swim) at school.
M.3
Direction : Write the correct form of verbs.
1. We enjoyed ____________ (listen) to the music last night.

2. He risked __________ (go) out alone in the dark.
3. She always stops at the market ___________ (buy) food.
4. Tony stopped __________ (speak) impolitely to his mother.
5. She is interested in ___________ (sing) classic songs.
6. Why don't we go ___________ (swim) in the lake now?
7. I'm sorry _________ (tell) you about bad news
8. He is very happy ________ (meet) her.
9. Why did we let him ________ (drive)?
10. She likes _________ (cook), bot doesn’t like ________ (wash).
1. He has a barber ________ his hair.

a. cut b. cutting c. to cut d. cutted
2. Mr. Tom stopped __________.

a. to drink to talk b. to drink smoking
c. drinking to smoking d. drinking to smoke
3. She avoided ________ up late.

a. to stay b. staying c. stay d. to stayed
4. She can't stand __________ at him.

a. look b. to looks c. to look d. looking
M.3
Interjection
(Exclamatory Sentence)
Interjection
คือ การอุทาน (หรือ Exclamatory Sentence) เป็นประโยคคำพูด
ที่แสดงความรู้สึก อารมณ์ในขณะที่พูด ประโยคอุทานอาจจะแสดงความโกรธ
เสียใจ ดีใจ ประหลาดใจ เป็นต้น
ซึ่งท้ายประโยคมักจะใส่เครื่องหมาย อัศเจรีย์ "!" (Exclamation Mark) เสมอ
การอุทานแบ่งออกได้เป็น 2 แบบคือ
1. อุทานเป็นคำเดียวโดดๆ (Word) หรือกลุ่มคำเป็นวลี (Phrase)
2. อุทานเป็นประโยค (Exclamatory Sentence)
อุทานเป็นคำๆ หรือกลุ่มคำวลี
แบบเป็นคำๆ เป็นกลุ่มคำ / วลี
Hurrah! แสดงความดีใจ Watch out!

Be careful! เป็นการเตือนให้ระวัง
Hello!, Hey!, Hi! การทักทาย หรือเรียก
Look out!
Ah! แสดงความเศร้าเสียใจ
Wow! / Oh! / Tut! แสดงความประหลาดใจ Hurry up!
Help! ขอความช่วยเหลือ Come on! เป็นการเร่ง
God! แสดงความประหลาดใจ Do come on!
Goodness! แสดงความประหลาดใจ
Mind! เป็นการเตือนให้ระวัง Bad luck! แสดงความเห็นใจ
Hands up! การสั่งให้ยกมือขึ้น
Careful! เป็นการเตือนให้ระวัง
Hands off! สั่งห้ามแตะ
Hust! เป็นการเตือนให้ระวัง
Shut up! สั่งให้หยุดพูด
Damn! / Bosh! แสดงการเหยียดหยาม
M.3
Interjection
อุทานเป็นประโยค หรือกลุ่มคำ
2.1) การใช้ What ขึ้นต้น เขียนได้หลายลักษณะ ดังนี้
What + a + คำนาม ! เช่น

What a pity! น่ าเสียดายจังเลย
What a shame! น่ าละอายจัง
What a mess! รกรุงรัง (ไม่เป็นระเบียบ) อะไรอย่างนี้
What a day!
What a day it is! เหนื่ อยอะไรอย่างนี้
What + (a / an) + adjective + คำนามนับได้เอกพจน์!

What a pretty hat! หมวกสวยจัง
What a big house! บ้านใหญ่จังเลย
What an honest man! ช่างเป็นคนซื่อสัตย์จังเลย
What + adjective + คำนามนับไม่ได้!

What salty soup! ซุปเค็มจังเลย
What fresh air! อากาศสดชื่นจังเลย
What + adjective + คำนามพหูพจน์!

What beautiful flowers! ดอกไม้สวยจัง
What naughty children they are! เป็นเด็กๆ ที่ซนมาก
What + (a / an) + adjective + คำนาม + ประธาน + กริยา!

What a bad boy he is! ช่างเป็นเด็กผู้ชายที่ร้ายกาจจัง
What beautiful roses they are!
ช่างเป็นดอกกุหลาบที่สวยอะไรอย่างนี้
What a pretty hat it is! ช่างเป็นหมวกที่สวยงามอะไรอย่างนี้
M.3
Interjection
อุทานเป็นประโยค หรือกลุ่มคำ
การใช้ How ขึ้นต้นประโยค

How + (adjective / adverb) + ประธาน + กริยา! เช่น
How beautiful she is! เธอช่างสวยอะไรอย่างนี้ / สวยจัง
How fluently he speaks! เขาช่างพูดได้คล่องอะไรอย่างนั้ น
การใช้ Here และ There ขึ้นต้นประโยค
Here Here
หรือ + ประธาน + กริยา! หรือ + กริยา + ประธาน!
(สรรพนาม) (คำนาม)
There There
เช่น Here it is!

เช่น
There they are!
Here he comes! Here comes our taxi!
There you are! There are your children!
การอุทานยังใช้ในการอวยพร ชื่นชมยินดี หรือโห่ร้องอีกด้วย เช่น

Long Live the King! ขอจงทรงพระเจริญ
God bless you! ขอให้พระเจ้าอวยพรให้คุณ
Have a good vacation! ขอให้มีวันหยุดที่สนุกสนาน
Have a good time! ขอให้สนุกสนาน
M.3
Interjection
Example.
She is a very clever girl.
Direction : Write the exclamatory sentences. - What a clever girl she is!
-. How clever she is!
1. That star is very bright.
What _________________________________________
2.They are sweet mangoes.

What ________________________________________
3. She drives very carefully.

How ________________________________________
4. Jenny is very careful.

How ________________________________________
5. Jong walks very clumsy.

How ________________________________________
6. He is a boring boy.
What ________________________________________
7. He is very short.
How ________________________________________
8. It is a very colorful dress.

What ________________________________________
How ________________________________________
9. She has beautiful eyes.

What _______________________________________
10. I am very fool.

How ________________________________________
What ________________________________________
M.3
Interjection
Direction : Change the underlined nouns to pronouns and then

rewrite the sentences.
Example :
There is the ambulance!
There it is!
1. Here comes my mother!
________________________________________
2.Here is Mr.Jong!
________________________________________
3. There come our parents!
________________________________________
4. There go the students!
________________________________________
5. There are the visitors!
________________________________________
6. Here is an ugly monster!
________________________________________
7. There is the best teacher!
________________________________________
8. There comes the nurse!
________________________________________
9. Here are the audience!
________________________________________
10. There goes the stranger!
________________________________________
M.3
Interjection
Direction : Write the correct verbs.
Example : Here (be) the tiger!

Here is the tiger!
1. There (go)the animals! _____________________________________________
2. Here (come) my Teddy! ___________________________________________
3. There (be) the animals! ___________________________________________
4. There (be) the brown sugar! _______________________________________
5. How beautiful she (be)! ___________________________________________
6. What dirty place it (be)! __________________________________________
7. How fast Tim (drive)! _____________________________________________
8. What a day it (be)! _______________________________________________
9. What a good movie it (be)! ________________________________________
10. Here (be) your money! ____________________________________________
11. There (come) the postmen! ________________________________________
12. Here he (come)! __________________________________________________
13. There they (go)! __________________________________________________
14. Here you (be)! ___________________________________________________
15. There (be) Peter! ________________________________________________
16. Here (be) the book you want! ______________________________________
17. How hard she (work)! _____________________________________________
18. What a sunny day it (be)! __________________________________________
19. How fast they (run)! ______________________________________________
20. How lovely she (be)!______________________________________________

M.3
Interjection
Direction : Change the phrases into Exclamatory Sentences.
1. What a big dog! _______________________________

2. What bitter coffee! ___________________________________
3. What beautiful gardens! _______________________________
4. What lovely girls! _____________________________________
5. What delicious food! __________________________________
6. What a splendid report! _______________________________
7. What a cheap price! __________________________________
8. What difficult exercises! ______________________________
9. What a brave nurse! __________________________________
10. What fresh air! _______________________________________

1. ________ bad he is!
a. What b. How c. Here d. There
2. _________ a wonderful song _________!

a. How / is it b. Here / is it c. What / it is d. There / it is
3. __________ a fool man I am!

a. What b. Here c. How d. There
4. _________ is a sad movie!

a. What b. How c. Why d. Here
5. How expensive the car _____________!

a. has b. is c. are d. runs
M.3
Question Tags
Question Tag หมายถึง รูปประโยคที่มีประโยคคำถามสั้นๆอยู่ท้ายประโยคบอกเล่า
หรือท้ายประโยคปฏิเสธ
** ต้องจำวิธีตั้งประโยคคำถาม ดังนี้ **
1. เมื่อประโยคหน้ าเป็นบอกเล่า Question Tag ต้องเป็นปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่า
ผู้พูดหวังได้รับคำตอบ Yes.
2. เมื่อประโยคหน้ าเป็นปฎิเสธ Question Tag ต้องเป็นบอกเล่า ผู้พูดหวัง
ได้รับคำตอบว่า No.
3. การเขียนประโยคต้องใส่ Comma (,) คั่นระหว่างประโยคหลักกับ Tag เสมอ
4. Question Tag ต้องเป็นกริยาช่วยเสมอ
5. หากไม่มีกริยาช่วยในประโยคหลัก ต้องใช้ do, does, did มาช่วย
6. กริยาช่วยใน Question Tag ต้องใช้รูปย่อเสมอ ไม่มีรูป amn't I
ต้องใช้ aren't I แทน
7. กริยาช่วย ต้องเปลี่ยนตาม Tense ที่ประโยคหลัก
8. ประโยคคำสั่ง ขอร้อง เชื้อเชิญ Question Tag ต้องใช้ will you ?
หลักการทำ Question Tag มีดังนี้
1. เมื่อประโยคหน้ าขึ้นต้นด้วย That is, This is ส่วน Question Tag

ใช้ isn't it? หรือ is it
2. เมื่อประโยคหน้ าขึ้นต้นด้วย There is/ are/ was/ were
ส่วน Question Tag ต้องใช้ V. to be ตามประธานและ Tense + there
3. เมื่อประโยคหน้ าขึ้นต้นด้วย These/ Those are ส่วน Question Tag
ใช้ aren't they หรือ are they แล้วแต่กรณี
4. เมื่อประโยคหน้ าเป็นประโยคความซ้อน ส่วน Question Tag
ต้องใช้กริยาในประโยคหลัก
5.เมื่อประโยคหน้ ามีคำที่ให้ความหมายเชิงปฏิเสธ ส่วน Question Tag นั้ น
ต้องเป็นบอกเล่า เช่น Nothing is interesting, is it?
6. มีคำที่กำหนดว่าเป็นปฏิเสธ คือ No, not, none, neither, nobody, nothing,
few, little, hardly, seldom, scarcely, rarely
7. เมื่อประโยคหน้ าเป็น Present Simple( V1), Question Tag
ต้องใช้ do, does +? ตัวอย่าง: You paint this picture, don't you ?
M.3
Question Tags
หลักการทำ Question Tag มีดังนี้ (ต่อ)

8. เมื่อประโยคหน้ าเป็น Past Simple(V2 ), Question Tag
ต้องใช้ did +? ตัวอย่าง : He ate this cake, didn't he ?
9. เมื่อประโยคหน้ าเป็น is, are, Question Tag ต้องใช้ isn't / aren't +?
ตัวอย่าง : She is a good girl, isn't she ?
10. เมื่อประโยคหน้ าเป็น am, Question Tag ต้องใช้ aren't I +?
ตัวอย่าง : I'm late, aren't I ?
11. เมื่อประโยคหน้ าเป็น has, have + V3, ใช้ hasn't / haven't ?
( has / Have เป็นกริยาแท้ )
ตัวอย่าง : She has turned on the light, hasn't she ?
12. เมื่อประโยคหน้ าเป็น let's+ V1, Question Tag ต้องใช้ shall we?
ตัวอย่าง : Let's go shopping, shall we ?
13. เมื่อประโยคหน้ าเป็น Let + obj + V1, Question Tag
ต้องใช้ will you / won't you ?
ตัวอย่าง : Let me go out, will you/ won't you ?
14. เมื่อประโยคหน้ าเป็น there is / there are, Question Tag
ต้องใช้ isn't there /aren't there ?
ตัวอย่าง : There is a ship, isn't there ?
15. เมื่อประโยคหน้ าเป็นThis is / That is , Question Tag
ต้องใช้ isn't it ? ตัวอย่าง : This is a Thai girl, isn't it ?
16. เมื่อประโยคหน้ าเป็น These are / those are, Question Tag
ต้องใช้ aren't they ? ตัวอย่าง : These are books, aren't they ?
17. เมื่อประโยคหน้ าเป็น Everybody, everyone, someone, somebody,
Question Tag ต้องใช้ they ?
ตัวอย่าง : Somebody borrowed your pen, didn't they ?
18. เมื่อประโยคหน้ าเป็น everything ,something, Question Tag
ต้องใช้ isn't it ? ตัวอย่าง : Everything is good, isn't it ?
19. เมื่อเป็นประโยคอุทาน (What a ............,....?) Question Tag ดูที่
ประธานของประโยค ตัวอย่าง : What a lovely day, isn't it ?
20. เมื่อประโยคหน้ าเป็น Don't + V1..... , Question Tag
ต้องใช้ will you? ตัวอย่าง : Don't make any noise, will you ?
M.3
Question Tags
หลักการทำ Question Tag มีดังนี้ (ต่อ)

21. เมื่อประโยคหน้ าเป็นประโยคคำสั่ง, ขออนุญาต, Question Tag
ต้องใช้ will you หรือwon't you?
22. ประโยค คำสั่ง(มักขึ้นต้นด้วย V1)

ตัวอย่าง : Read this book, will you?
23. ประโยคขออนุญาต ต้องใช้รูป( Let +obj + V1)
ตัวอย่าง : Let me see it, will you ?
24.เมื่อประโยคหน้ าเป็นประโยคชักชวน ( Let's + V1),
Question Tag ต้องใช้ shall we ?
ตัวอย่าง : Let's go eating, shall we ?
25. need , dare เมื่อเป็นกริยาแท้ ใช้ verb to do
มาช่วยใน Question Tag
ตัวอย่าง : She dared to speak Japanese, didn't she ?
ขั้นตอนการเขียน
Question Tag
1. เมื่อประโยคหน้าเป็นประโยคบอกเล่า ต้องใช้ Question Tag เป็นรูปปฏิเสธ

เช่น You eat a lot of ice cream, don't you?
You will have the exam next month, won't you?
She came here yesterday, didn't she?
They have finished their work, haven't they?
2. เมื่อประโยคหน้าเป็นประโยคปฏิเสธ ต้องใช้ Question Tag เป็นรูปบอกเล่า

เช่น You won't come early, will you?
She doesn't want to disturb you, does she?
We didn't make a loud noise, did we?
They haven't tunred it off, have they?
M.3
Question Tags
Question Tag
3. เมื่อประโยคข้างหน้ามี verb to have ดูตัวอย่างข้อ a, b, และ c
a. เมื่อ have แปลว่า มี ต้องใช้ Question Tag ว่า haven't หรือ don't ก็ได้ เช่น
- She has a lot of friends, hasn't she? (แบบ British)
- They have only one child, don't they? (แบบ American)
b. เมื่อ have แปลอย่างอื่น ที่ไม่ใช่แปลว่า มี ต้องใช้ verb to do เช่น

- We have lunch at twelve o'clock, dont' we? (have lunch : กิน)
- I had his letter last week, didn't I? (had....letter : ได้รับ)
- The King has the dam built, doesn't he? (ใช้ ไหว้วาน)
- You had a toothache last week, didn't you?
(had a toothache :ปวดฟัน)
c. Question Tag ของ have to (จำเป็นต้อง) ต้องใช้ verb to do เช่น
- You often have to go to the dentist's, don't you?
4. ในประโยค Question Tag ที่เป็นรูปปฏิเสธ ต้องใช้ รูปย่อเสมอ เช่น

- We shall go shopping, shan't we?
- He will come to my party, won't he?
5. Question tag ของ I am คือ aren't I (เนื่องจาก am not ไม่มีรูปย่อ) เช่น

- I am late, aren't I ?
- I am lazy, aren't I?
6. Question tag ของกริยาช่วย can, could, may, might, will, shall, ought to,
should ,V. be , etc....จะใช้กริยาช่วยเหล่านี้ เป็น Question tag ได้ เช่น
- She can do it well, can't she?
- You ought to study hard, oughtn't you?
- They should obey their teacher, shouldn't they?
M.3
Question Tags
Question Tag
7. คำว่า need (ต้องการ) และ dare(กล้า) มีวิธีใช้ 2 แบบ คือ

a. ใช้เป็นกริยาแท้ Question Tag ต้องใช้ verb to do เช่น
- He needs to go there alone, doesn't he?
- They need money, don't they?
- She does not need any help, does she?
- She dares to come alone, doesn't she?
- We don't dare to tell a lie, do we?

** (ต้องจำไว้ว่า ถ้า need / dare ต้องใช้เป็นกริยาแท้ จะตามหลังด้วย
to +V1 โดยที่กริยา need / dare สามารถผันตามประธานได้ หรืออาจ
ตามด้วย noun ก็ได้)
b. ใช้เป็นกริยาช่วย Question Tag ต้องใช้ need / dare เป็นกริยาช่วย

ใน Question Tag เช่น
- She needn't come on Sunday, need she?

- You dare not go out alone at night, dare you?
*** (ต้องจำไว้ว่า ถ้า need / dare เป็นกริยาช่วย จะตามหลังด้วย V1 เสมอ)
8. Question Tag ของ used to (เคย) คือ didn't หรือ usedn't เช่น
- She used to be his secretary, didn't she (usedn't she)?
9. ประธานที่ใช้ใน Question Tag ต้องเป็น pronoun เสมอ เช่น

- Lisa went to Chiang Mai yesterday, didn't she?
- The children are playing in the garden, aren't they?
- The police are searching for a thief, are they?
M.3
Question Tags
Question Tag
10. Question Tag ของ would rather (อยากจะ) ต้องใช้ wouldn't เช่น
- You'd rather stay at home, wouldn't you?
- We would rather not go there, would we?
11. Question Tag ของ had better ต้องใช้ hadn't เช่น

- You 'd better finish your homework, hadn't you?
- She had better not go out alone, had she?
12. เมื่อประโยคข้างหน้ าเป็นประโยคคำสั่ง หรือ ขอร้อง (Imperative, order,

request ) จะกลายเป็นประโยคสุภาพ ด้วยการเติม Question Tag
ว่า will you หรือ won't you? เช่น
- Open your book, will you?

- Stop talking, will you?
- Take these things away, will you?
- Let us go to the movies, will you?
- Let me ask him to accompany you, shall I?
13. เมื่อประโยคข้างหน้ ามีประธานเป็น There is, There are, There was,

There were,(มี) Question Tag ต้องใช้ verb to be นั้ นๆ + there เช่น
- There is a purse in my bag , isn't there?

- There are many flowers in the garden, are there?
- There was an accident last night, wasn't there?
14. Question Tag ของ That is.., This is คือ isn't it ? หรือ is it? เช่น
- This is my book, isn't it?

- That is not your bag, is it?
15. Question Tag ของ These are, Those are ต้องใช้ aren't they?
หรือ are they? เช่น
These are her belongings, aren't they?

These are your exercise books, aren't they?
Those are not our balls, are they?
M.3
Question Tags
Direction : Write the question tags to the following sentences.
1. There are a lot of roses in the basket, __________________________?
2. I am your close friend, __________________________?
3. Nothing happened there, __________________________?
4. Those aren't my students, __________________________?
5. Pass me that pen, __________________________?
6. Let's go for a walk, __________________________?
7. Let me help you, __________________________?
8. Keep the bad news to yourself, __________________________?
9. None of the students read the story, __________________________?
10. She ought to go to bed early, __________________________?
11. I don't dare to tell a lie to you, __________________________?
12. Anna used to be a teacher, __________________________?
13. I'd like to get up late on Sundays, __________________________?
14. Tom often has to work part-time in that shop, ___________________?
15. Tom and I have got to go to school tonight, ______________________?
16. Liza'd rather write than read it, __________________________?
17. Don't forget to turn off the lights before leaving the room,
__________________________?
18. You'd better not go out alone, __________________________?
19. This is not a big fish, __________________________?
20. Take me home, __________________________?

M.3
Question Tags
Direction : Answer these question tags. (ยึดประโยคนำเป็นหลัก)
Example : He isn't a good man, is he?

No, he isn't.
He is a good man, isn't he?
Yes, he is.
1. Judy didn't sleep in her room last night, did she?

___________________________________________
2. You should go to school in time, shouldn't you?
___________________________________________
3. They seldom work hard, do they?
___________________________________________
4. You'll be on holiday tomorrow, won't you?
___________________________________________
5. It's fine today, isn't it?
___________________________________________
6. Tim and Tom drink milk every day, don't they?
___________________________________________
7. I am not your close friend, am I?
___________________________________________
8. We don't know each other, do we?
___________________________________________
9. He is teaching Japanese, isn't he?
___________________________________________
10. Lin-Lin can speak English fluently, can't she?
___________________________________________
M.3
Question Tags
Direction : Complete the following sentences.
1. We have never been there, _____________________________?

2. Peter hardly believed in ghosts, _____________________________?
3. He always parks his car there, _____________________________?
4. Sompong rarely goes to bed early, _____________________________?
5. None of the workers worked hard, _____________________________?
6. Few actors came to the concert, _____________________________?
7. Nothing can prove it, _____________________________?
8. There is no snow in Thailand, _____________________________?
9. I rarely enjoy dancing at the party, ___________________________?
10. We seldom swim after school, _____________________________?
11. Ben usually drinks coffee for breakfast, ________________________?
12. Little money was left, _____________________________?
1. Let's not go out alone, ______________ ?

a. shall we b. shan't we c. will you d. won't we
2. Don't be late, ______________ ?

a. won't you b. do you c. don't you d. will you
3. That must be very fun, _______________?

a. mustn't that b. didn't that c. mustn't it d. doesn't it
4. You have dinner at 6 p.m., _______________?

a. haven't you b. don't you c. do you d. have you
5. Jong will be ten next year,

a. will not he b. won't he c. won't Jong d. will Jong
M.3
Active and Passive Voice
Active Voice คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้กระทำกริยาโดยตรง โดยบอก

ให้รู้ว่าใครทำอะไรกับใคร (ที่ไหน เมื่อไหร) เช่น
My father bought that car. (พ่อของฉันซื้อรถคันนั้ น)

My father เป็นประธาน ทำกริยา (bought) โดยตรง
Judy cooked dinner yesterday. (จูดี้ทำอาหารเย็นเมื่อวานนี้ )

Judy เป็นประธาน ทำกริยา (cooked) โดยตรง
Passive Voice คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำโดยกริยา เช่น
That car was bought by my father. (รถคันนั้ นถูกซื้อโดยแม่ของฉัน)

That car เป็นประธาน แต่ถูกทำด้วยกริยา (bought)
Dinner was cooked by Judy yesterday. (อาหารเย็นถูกทำโดยจูดี้เมื่อวานนี้ )

Dinner เป็นประธาน แต่ถูกทำด้วยกริยา (cooked)
รูปแบบของ Passive voice ในภาษาอังกฤษจะประกอบไปด้วย 2 ส่วน ได้แก่

to be + กริยาช่อง 3 (Past Participle)
หลักการเปลี่ยนประโยค Active Voice เป็น Passive Voice

1. นำกรรมของประโยค Active ไปเป็นประธานของประโยค Passive
2. ใช้ Verb to be ให้ถูกต้อง คล้อยตามประธาน
3. เปลี่ยนคำกริยาแท้ให้เป็น V.3
4. นำประธานของ Active ไปเป็นกรรมของ Passive โดยวางไว้หลัง by
ตัวอย่าง : Active: Mom makes tea.

Passive: Tea is made by mom.
** ถ้าในประโยคมีกรรมสองตัวคือ กรรมตรง (Direct Object)

เป็นสิ่งของ และ กรรมรอง (Indirect Object) เป็นคน เมื่อเปลี่ยนเป็นประโยค
Passive มักนำกรรมรอง (คน) มาเป็นประธาน แต่ถ้าจะนำกรรมตรง (สิ่งของ)
มาเป็นประธานจะต้องใส่ to ที่หน้ ากรรมรอง (คน)
ตัวอย่าง : Active: She gave me the letter.

Passive: I was given the letter by her.
The letter was given to me by her.
M.3
การเปลี่ยนรูปเป็นประโยค Passive Voice ของทั้ง 12 Tense
Present Tense
Past Tense
M.3
การเปลี่ยนรูปเป็นประโยค Passive Voice ของทั้ง 12 Tense
Future Tense
กริยาที่ใช้กับ Passive Voice ไม่ได้
1) กริยาที่ไม่ต้องกรรมมารองรับ (Intransitive Verb) เช่น
act แสดง continue ดำเนิ นการต่อ sing ร้องเพลง

explode ระเบิด cry ร้องไห้ sit นั่ ง
arrive มาถึง run วิ่ง smile ยิ้ม
go ไป die ตาย
come มา swim ว่ายน้ำ
laugh หัวเราะ immigrate อพยพ
lie โกหก respond โต้ตอบ
3) กริยาที่มีความหมายว่า “เป็น, อยู่, คือ” ได้แก่

2) กริยาพิเศษ ได้แก่
is, am, are เป็น, อยู่, คือ
has มี smell ได้กลิ่น
fit พอดี become กลายเป็น
suit เหมาะสม feel รู้สึก
appear ปรากฏ
lack ขาดแคลน
get เอา, ได้รับ
look ดูเหมือนว่า
taste มีรสชาติ
M.3
สถานการณ์ที่ ประโยค Passive Voice ไม่ต้องการ By
ตัวอย่างที่ผ่านมา หลาย ๆ ท่านอาจจะสังเกตุเห็นว่าประโยค

Passive Voice ต้องมี by
เช่น The boy was bitten by the dog.

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประโยค Passive Voice ไม่จำเป็นต้อมี By
เสมอไปค่ะ ถ้าหากอยู่ใน 3 สถานการณ์เหล่านี้
1) เมื่อต้องไม่ต้องการพูดถึงผู้กระทำ เพราะไม่สำคัญหรือรู้กันอยู่แล้ว
เช่น
Champagne is used to commemorate joyous occasions.
แชมเปญถูกใช้เพื่อฉลองโอกาสสุดพิเศษ
2) ประโยคที่ขึ้นต้นด้วยคำเหล่านี้ ได้แก่
It is believed that เชื่อกันว่า
It is said that กล่าวกันว่า
It is expected that คาดกันว่า
It is hoped that หวังกันว่า
Trick: หลัง that ต้องตามด้วยประโยค เช่น

It is believed that drinking cold water makes a period stop.
เชื่อกันว่าการกินน้ำเย็นตอนมีประจำเดือนจะทำให้เลือดหยุดไหล
3) เมื่อไม่รู้ว่าใครเป็นผู้กระทำ เช่น
My cat was kidnapped on Monday morning.
แมวของฉันถุกขโมยไปเมื่อวันจันทร์ตอนเช้า
M.3
Direction : Change these sentences from Active Voice to Passive Voice.

1. Thai people eat rice every day.
_____________________________________________________________
2. We are playing tennis now.
_____________________________________________________________
3. They are going to hold the football match at the National Stadium
next summer.
_____________________________________________________________
4. Cullen and Jong will use a balloon for traveling around

the National Park.
_____________________________________________________________
5. Everyone must take the tests.

_____________________________________________________________
6. Someone stole Toney's car last week.

_____________________________________________________________
7. My room-mate has broken my heart.
_____________________________________________________________
8. Does he always help you with your homework?
_____________________________________________________________
9. Will you help me with my work?
_____________________________________________________________
10. Can you tell me the truth?
_____________________________________________________________
11. Can you give me some help?
_____________________________________________________________
12. Mozart wrote the best opera.
_____________________________________________________________
13. The people in France speak French.
_____________________________________________________________
14. The painter is painting the walls of the house.
_____________________________________________________________
15. Our teacher showed us the pictures
_____________________________________________________________
M.3
Direction : Change these sentences from Active Voice to Passive Voice.
1. My mother loves my father very much.

_____________________________________________________________
2. Does Tone forget my number?
_____________________________________________________________
3. They are seeing him off at Don Muang Airport tonight.

_____________________________________________________________
4. We have eaten our lunch in that restaurant many times.

_____________________________________________________________
5. Tommy learned Thai when he was young.

_____________________________________________________________
6. I was singing that song when he came in.

_____________________________________________________________
7. What will you do tomorrow?
_____________________________________________________________
8. I let him go out.
_____________________________________________________________
9. A baker makes a special cake for my birthday.
_____________________________________________________________
10. Did she do her work very well?
_____________________________________________________________
11. The maid cleaned the bedroom yesterday.
_____________________________________________________________
12. Someone rushed the wounded girl to the nearest hospital.
_____________________________________________________________
13. The teacher has already punished the students.
_____________________________________________________________
14. The cooker is preparing the big meal at this moment.
_____________________________________________________________
15. She cooks her breakfast every morning.
_____________________________________________________________
M.3
Direction : Change these passive sentences to active sentences.
Example : Languages are usually learned by students at school.

Students usually learn languages at school.
1. The clothes are washed by Jupiter every week.

______________________________________________________________
2. Blue jeans are being worn by Cullen today.

______________________________________________________________
3. The fairy-story can't be read by Leena now.

______________________________________________________________
4. Is football played by them in the afternoon?

______________________________________________________________
5. Their hands are not washed by the children before the meal.
______________________________________________________________
6. That animal is known by scientists.

______________________________________________________________
7. That coffee - table must be taken away by us.

______________________________________________________________
8. At this time tomorrow this bridge will be being painted by the workers.
______________________________________________________________
9. America was discovered by Columbus in 1492.

______________________________________________________________
10. The basketball - match was postponed by the committee because

of the flood.
______________________________________________________________
M.3
Direction : Rewrite these sentences into passive voice.
Example : Throw away the useless things.

Let the useless things be thrown away.
1. Write your name on the wall.

______________________________________________________________
2. Do the housework.
______________________________________________________________
3. Read this story now.

______________________________________________________________
4. Don't eat that cake.

______________________________________________________________
5. Don't look at my daughter.

______________________________________________________________
6. Wash the clothes now.

______________________________________________________________
7. Fix the clock.

______________________________________________________________
8. Answer this question.

______________________________________________________________
9. Look at those black clouds.

______________________________________________________________
10. Don't paint that old door.

______________________________________________________________
M.3
Direction : Change these sentences into passive voice without "by".
1. Nobody has ever seen that monster.

______________________________________________________________
2. People must pay the tax.

______________________________________________________________
3. Somebody will help the poor.

______________________________________________________________
4. Someone knocked Jack down last week.

______________________________________________________________
5. No one has eaten the food since then.

______________________________________________________________
6. Everybody will meet the new world in the future.

______________________________________________________________
7. Anybody can teach her to be a good girl.

______________________________________________________________
8. He closes the shop at 6 p.m. every day.

______________________________________________________________
9. Everyone must obey the rules.

______________________________________________________________
10. No one loves to hear the bad news.

______________________________________________________________
M.3
Direction : Rewrite these sentences into passive as the example.

Example : She gave me a new pen.
I was given a new pen by her.
A new pen was given to me by her.
1. He brings me a cup of coffee.

__________________________________________________________
__________________________________________________________
2. Chalee told her the truth yesterday.

__________________________________________________________
__________________________________________________________
3. She will show us her new car.

__________________________________________________________
__________________________________________________________
4. The teacher taught them new words.

__________________________________________________________
__________________________________________________________
5. I sent Dam bad news.

__________________________________________________________
__________________________________________________________

1. This dress _______ by Julia tonight.
a. will wear b. will be wearing
c. will be worn d. will be wear
2. Let the ugly man ___________ in the room.

a. not be brought b. be not brought
c. be not bring d. not be bring
3. Several houses __________ by the storm last night.

a. was destroyed b. had destroyed
c. destroyed d. were destroyed
M.3
Relative Clause
Relative Clause คือ อนุประโยคที่ทำหน้ าที่เสมือน Adjective โดยตามหลัง

Relative Pronoun (who, which, that, whom, whose, where, why) โดยจะบอก
ให้รู้ว่าสิ่งที่กำลังพูดถึงอยู่คือ สิ่งใดหรือใคร
Relative Clause แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. Defining Relative Clause (DC)บอกสิ่งที่กำลังพูดถึง (ถ้าขาดไปจะไม่รู้

ว่าพูดถึงอะไร)
Ex. The boy who plays football over there is my son.

(เด็กผู้ชายที่เล่นฟุตบอลตรงนั้ นคือลูกชายของฉัน)
“who plays football over there” ขยาย The boy ที่กำลังพูดถึงอยู่
ว่าคือคนไหน
การใช้ Defining Relative Clause

1. ทำหน้ าที่เสมือนคำคุณศัพท์ (Adjective) เพื่อขยายนามที่อยู่ข้างหน้ า
ให้ได้ใจความสมบูรณ์ชัดเจนว่า หมายถึง ใคร สิ่งไหน หรือ ของใคร
2. ไม่มีเครื่องหมาย comma (,) คั่นระหว่างนามกับ Defining Relative
Clause
3. ขึ้นต้นด้วย Relative Pronoun ที่ต้องสอดคล้องกับนามที่ขยาย เช่น
ถ้าขยายนามที่เป็นคน Relative Pronoun ก็ต้องเป็นคำที่ใช้แทนคน
2. Non-defining Relative Clause (NC) บอกข้อมูลเพิ่มเติมของสิ่งที่กำลัง

พูดถึง ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีข้อมูลนี้ ก็เข้าใจได้ว่าพูดถึงอะไร
Ex. Jupiter told me about her new job, which she's enjoying a lot.
(จูปิเเตอร์เล่าเรื่องงานใหม่ของเธอให้ฉันฟัง ซึ่งเธอสนุกสนานมาก)
“which she's enjoying a lot” เป็นการบอกข้อมูลเพิ่มเติม
ซึ่งไม่บอกก็ได้
การใช้ Non-defining relative Clause

1. เป็น clause ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อให้ได้รายละเอียดมากขึ้น แต่ไม่มีความ
จำเป็นกับใจความของประโยค
2. ต้องมีเครื่องหมาย comma (,) คั่นข้างหน้ าและข้างหลัง clause เสมอ
3. ใช้ relative pronouns ไม่ชี้เฉพาะเจาะจง เช่น who, whom ,whose,
which เท่านั้ น ใช้ that ไม่ได้เด็ดขาด
M.3
Relative Clause
Relative pronouns
M.3
Relative Clause
Direction : Write DC in front of Defining Clause and write NC in front of

Non-defining Clause.
Example : _______
DC That is a puppy that I bought yesterday.
1. ______ I have eaten the cake which Leena gave me.
2. ______ The rose you gave her is on her pillow.
3. ______ The story which he is telling the children is very boring.
4. ______ Who is the teacher whom you are talking about?
5. ______ Mr. Jong, who is your new teacher, will come in a few minutes.
6. ______ Bangkok, which is the capital of Thailand, is very beautiful.
7. ______ It was the best movie that I have never seen before.
8. ____ English, which people around the world speak, is easy for me to speak.
9. ______ This is the house where I live.
10. ______ My mother, who lives in Khon Kaen, will visit us next week.
11. ______ I want to know why she was killed.
12. ______ Did you see the book that I forgot yesterday?
13. ______ I have seen Dr. Judy, whose husband is very famous.
14. ______ My house, which I bought ten years ago, is being repainted now.
15. ______ Ayuttaya, which was the capital of Thailand, has many beautiful
temples.
M.3
Relative Clause
Direction : Fill the blanks with “who, whom, which, of which, whose, that,
where, when, why”.
1. Mr. Cullen, _______ designed this table, is my uncle.
2. Chalee will write to his uncle, _______ you saw here yesterday.
3. The woman _______ husband died last two months wins the lottery.
4. The house _______ the roof is green is mine.
5. The flowers _______ I like best are roses.
6. That was the best way _______ I could do for you.
7. I want to know the reason _______ she came late.
8. The teacher _______ teaches you the math will take care your class.
9. That is the cinema _______ we saw the last movie.
10. Gods bless the people _______ never stop working.
11. I didn't know the exact time _______ I met him after work.
12. She can tell you the place _______ the accident happened.
13. A little girl _______ name is Jenny is my daughter.
14. Soontorn Poo, _______ wrote Pra Apaimani, is one of the most famous
Thai poets.wrote Pra Apaimani, is one of the most famous Thai poets.
15. The hotel _______ I stayed in last holidays is near the beach.
16. Look at that girl _______ has long fair hair.
17. Yesterday at the party I met Eddy, _______ wife died in the accident.
18. I like the song _______ he is singing.
19. This is the house _______ Lusi built.
20.The policemen were arresting the thief _______ robbed the old man.
M.3
Relative Clause
Direction : Put ,________, in these Non-defining Clauses.
Example : My friend Tong, who has just come back, will join the party.
1. Mr. Peter whom we saw in the morning is our new director.
2. We live in Bangkok which is the capital of Thailand.
3. She is my mother who always loves her children.
4. English which is spoken around the world is my favorite language.
5. I would like to go to Tokyo which is the capital of Japan.
6. That is Mr. Jackson who used to be a famous movie star.
7. Pimmy who came late yesterday is my best friend.
8. Pimmy whose father is in the hospital can not come to work.
9. My eldest child who is in Paris will come back home.
10. Our house which is on Pahon Yothin Road was built by him.
1. This is Mr.Tomas _________ we saw in front of the school.

a. whom b. ,to whom c.,whom d. who
2. The kitty _________ you are looking at is Janet's.

a. that b. at which c. where d. whose
3. Sarah, __________ house is on fire, is sent to the hospital.

a. that b. whose c. who d. whom
4. I opened the drawer _________ his watch was kept.

a. which b. that c. when d. where
Conditional Sentences
M.3
Conditional sentences หรือ If Clause (ประโยคเงื่อนไข) คือ ประโยคที่ผู้พูดสมมติ

ว่าถ้ามีเหตุการณ์หนึ่ งเกิดขึ้น จะมีผลหรือเหตุการณ์อื่นๆ เกิดขึ้นตามมา ประกอบด้วย 2
ส่วน คือ
1) If clause ส่วนที่เป็นเงื่อนไข ขึ้นต้นด้วย If
2) Main clause ส่วนประโยคหลักที่เป็นผลมาจากเงื่อนไข If clause
ประโยค If clause สามารถแบ่งได้ 4 แบบ ดังนี้
If clause type 0 : เหตุการณ์ที่เป็นความจริง
โครงสร้าง
If + Present Simple , Present Simple
If + (Subject + v.1) , (Subject + v.1)
วิธีใช้
ใช้กับเงื่อนไขที่เป็นจริงเสมอ ใช้พูดถึงความจริงตามธรรมชาติ หรือข้อเท็จจริงทั่วไป
ตัวอย่างประโยค
If it rains, the grass gets wet. (ถ้าฝนตก หญ้าก็เปียก)
If you smoke cigarettes, your health suffers.
(ถ้าเธอสูบบุหรี่ สุขภาพของเธอแย่แน่ )
If clause type 1 : เหตุการณ์ที่เป็นเหตุเป็นผลกัน,

เหตุการณ์ที่คาดว่าจะเป็นไปได้จริง
If + Present Simple , Future Simple
If + (Subject + v.1) , (Subject + will + Verb infinitive)
ใช้อธิบายว่า ถ้าหากเหตุการณ์หนึ่ งเกิดขึ้น อีกเหตุการณ์หนึ่ งก็มีแนวโน้ มว่าจะเกิดขึ้น
If you don’t hurry, you will miss the train.
(ถ้าเธอไม่รีบ เธอจะขึ้นรถไปไม่ทัน)
If I study, I will pass the exam.

(ถ้าฉันทบทวนบทเรียน ฉันจะสอบผ่าน)
If you rest, you will feel better. (ถ้าเธอพักผ่อน เธอจะรู้สึกดีขึ้น)

Conditional sentences
M.3
If clause type 2 : เหตุการณ์ที่ไม่เป็นความจริงในปัจจุบัน

และจะไม่เกิดขึ้นในอนาคต
If + Past Simple , Subject + would + Verb infinitive
If + (Subject + v.2) , Subject + would + Verb infinitive
ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามกับความจริงในปัจจุบันและอนาคต หรือใช้สมมติสิ่งที่เป็น
ไปไม่ได้ในปัจจุบัน
If you went to bed earlier, you would not be so tired.
(ถ้าเธอเข้านอนเร็ว เธอก็ไม่ต้องเหนื่ อยแบบนี้ )
If I had time, I would learn how to dance.

(ถ้าฉันมีเวลา ฉันคงเรียนเต้นไปแล้ว)
If clause type 4 : เหตุการณ์ที่แสดงเงื่อนไขในอดีตที่ไม่สามารถ

เป็นจริงได้ในปัจจุบัน
If + Past Perfect , Subject + would + have + v.3
If + (Subject + had + v.3) , Subject + would + have + v.3
ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามกับความจริงในอดีต ซึ่งไม่เป็นไปตามผู้พูดคาด และรู้สึก
เสียดายหรือเสียใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไป หรือไม่ได้ทำในอดีต
If I had accepted that promotion, I would have been working in NASA.
(ถ้าฉันตกลงรับตำแหน่ งนั้ น ฉันคงได้ทำงานที่นาซ่าไปแล้ว
**แต่ตอนนั้ นไม่ได้ตกลง ตอนนี้ ก็เลยไม่ได้ทำงานที่นาซ่า
If I had cleaned the house, I could have gone to the movies.

(ถ้าฉันทำความสะอาดบ้าน ฉันคงได้ไปดูหนั งแล้ว)
**แต่ตอนนั้ นไม่ได้ทำความสะอาดบ้าน ตอนนี้ ก็เลยไม่ได้ไปดูหนั ง
M.3
สรุปการใช้ Conditional sentences

M.3
Direction : Fill the blanks with the correct words.
1. If Jane ___________ a man, she __________ join the army.
2. What ___________ you do if you had no money?
3. ___________ she come if I ask her?
4. Tom would die ___________ he were in the car.

5. If you did ___________ pay attention to the teacher, you
would not pass the test.
6. If it is sunny ___________ we should go for a walk.
7. I couldn't marry you if you ___________ not ask me.
8. If he ___________ not arrive on time, I will hit him.
9. If Peter had posted Mary a letter, she would ___________
been happy.
10. If she ___________ seen the ghost, she would have
run away.
M.3
Direction : Write the questions of these sentences.
1. If it rains, she will take a taxi to school.

_____________________________________________________
2. If we heat the ice, it changes into water.

_____________________________________________________
3. Tony will come if I invite him.

_____________________________________________________
4. If you saw a ghost, you would run away.

_____________________________________________________
5. If you cut your finger, it will hurt.

_____________________________________________________
6. If he comes, he may see me.

_____________________________________________________
7. If it rains, he must stop working.

_____________________________________________________
8. If Bob gets an invitation, he will come.

_____________________________________________________
9. If he asked you, you would marry him.

_____________________________________________________
10. If he had had my address, he would have written to me.

_____________________________________________________
M.3
Direction : Write the correct form of the verbs in brackets.
1. If it (be) _______________ fine, I usually ride my bike to school.
2. If I (be) _______________ a rabbit, I would win a turtle.
3. She will have to see the doctor if she (be) ________________ sick.
4. If she does her work well, I (hire) _______________ her.
5. Will you help her if she (ask) _______________ you?
6. Please tell me if you (want) _______________ to go home now.
7. If Tom invites you, _______________ (be) you happy?
8. Would he help me if he (have) _______________ time?
9. If today (be) __________ Wednesday, tomorrow (be) ________ Thursday.
10. Don't come to work if you (be) _______________ still sad.
11. You would see me if you (go) _______________ to the party.
12. If you have any problems, _______________ (tell) me.
13. If Janet had been there, she __________________ (see) her boyfriend.
14. If we (not get up) _____________ early, we may miss the train.
15. If you (be) ___________ a superman, _________________ (help) you her?
16. My mom (be) _____________ serious if I got home late.
17. What you (do) _______________ if it rained?

18. If my mom (not go) _____________ to work yesterday,
she (not see) _____________ the accident.
19. If you had a wish, what _______________ (ask) you for?
20. If Mac (come) ______________ here last night, he (meet) __________ Jane.
M.3
Direction : Write the correct form of the verbs in brackets.
1. We usually go for a walk if it (not rain) ______________.
2. What ______________ (happen) if the sun doesn't shine?
3. _____________ (go) you abroad if you got a scholarship?
4. If I (say) _____________ that again, will you punish me?
5. If he had failed again, his parents (be) ____________ angry.
6. If Bob (not hurry) _____________, he would miss the bus.
7. You could have a picnic if it (stop) _____________ snowing.
8. Jerry can fix the watch if he (have) _____________ tools.
9. If you finish it, _____________ (hand) it to me.
10. If he (not come) _____________, will you go alone?
1. If I met her, I __________ her a rose.

a. give b. will give c. might give d. gave
2. If it _________ tomorrow, I shall stay home.

a. would rain b. will rain c. rained d. rains
3. If Bill _________ rich, he __________ working.
a. was / stopped b. were / would stop
c. is / shall stop d. had been / would stopped
4. If he had not eaten so much, he __________ fat.
a. would not have been b. would be
c. would had been d. wouldn't be
M.3
Unless
Unless = ถ้าไม่, นอกจากว่า เป็นคำสันธาน (Conjunction) เช่น เดียวกับ If = (ถ้า)

(Conjuncion คือคำสันธาน เป็นคำเชื่อมประโยค 2 ประโยค คำกับคำ หรือกริยากับกริยา)
Unless = if not = (นอกจากว่า, ถ้าไม่) ดังนั้ น unless จึงสามารถใช้แทน if ____ not ได้
เมื่อใช้ unless จะไม่มี not เช่น
If I don't see you there, don't see me again.
Unless I see you there, don't see me again.
เรายังสามารถใช้คำอื่นแทน If หรือ คำที่เทียบเท่ากับ If ได้อีก ได้แก่
even if = แม้ว่า
suppose (that)
supposing (that) = ถ้าสมมติว่า
provided (that) = ในกรณีที่

on condition (that) = ในกรณีที่, ถ้า
in case (that) = ในกรณีที่
as long as = ตราบเท่าที่
if only = ถ้าเพียงแต่ว่า เป็นต้น
** เราใช้ unless แทน if-not ได้ใน If-clause ทั้ง 3 แบบดังตัวอย่าง

Type 1 : If you don't heat the water, it doesn't boil.
Unless you heat the water, it doesn't boil.
: I can't see anything if you don't turn on the lights.

I can't see anything unless you turn on the lights.
: Tell me immediately if you don't come.

Tell me immediately unless you come.
Type 2 : I would accept his project if he didn't tell a lie.

I would accept his project unless he told a lie.
Type 3 : If Tom hadn't been diligent, he wouldn't have passed the exams.
Unless Tom had been diligent, he wouldn't have passed the exams.
สรุป
unless ใช้แทน If _ not
ประโยคหลัง unless จะต้องเป็นบอกเล่าเสมอ
unless ใช้ได้กับ If-Clause ทั้ง 3 แบบ
ให้สังเกตว่าเมื่อใช้ unless แล้วกริยาจะต้องใช้รูปตามกฎของ If-Clause
M.3
Unless
Direction : Rewrite these sentences by using "unless".
1. If you don't pay attention to your teacher, you will fail.

__________________________________________________________
2. If water doesn't boil, it won't change into steam.

__________________________________________________________
3. If you don't like it, don't throw it away.

__________________________________________________________
4. She can't speak to them if they don't come.

__________________________________________________________
5. If she doesn't begin now, she won't finish in time.

__________________________________________________________
6. If the sun doesn't shine, all living things will die.

__________________________________________________________
7. If it is not fine, Paul usually goes to work by his car.

__________________________________________________________
8. If students don't study hard, they sometimes fail.

__________________________________________________________
9. We won't go to the cinema if we don't finish our work.

__________________________________________________________
10. I will suffer from hunger if I have no money.

__________________________________________________________
11. She will starve to death if she doesn't eat.

__________________________________________________________
12. If the wind is not strong, let's have a picnic.

__________________________________________________________
M.3
Unless
จากเงื่อนไขใน If Clause แบบที่ 1 ซึ่งเป็นข้อความที่เป็นความจริงเสมอ เป็นจริงที่เกิด

ขึ้นตามธรรมชาติ เป็นจริงทางด้านวิทยาศาสตร์ และเป็นความจริงที่เกิดจากการกระทำที่
เป็นนิ สัยส่วนตัวของบุคคล เมื่อเงื่อนไขเกิด ผลก็จะเกิดขึ้นเช่นนั้ นเสมอ ซึ่งเงื่อนไขแบบนี้
เราสามารถใช้ when หรือ whenever แทน If ได้ เพราะเมื่อใช้ when หรือ whenever
แล้วจะไม่ทำให้ความหมายเปลี่ยนเลย
Direction : Rewrite the sentences by using "when and whenever".
1. If you are sad, you always cry out loud.

_________________________________________________________
_________________________________________________________
2. If the sun sets, the moon and stars rise.

_________________________________________________________
_________________________________________________________
3. If there is no rain, all the lands are dry and cracked.

_________________________________________________________
_________________________________________________________
4. Lisa always stays up late if she has tests.

_________________________________________________________
_________________________________________________________
5. If we are hungry, we eat.

_________________________________________________________
_________________________________________________________
6. If the whether is fine, we will jog in the morning.

_________________________________________________________
_________________________________________________________
7. If we go shopping, we will buy some food.

_________________________________________________________
_________________________________________________________
M.3
Unless
Direction : Rewrite these sentences by using "unless".
1. If I were not a bird, I wouldn't fly to you.

_____________________________________________________
2. She wouldn't go abroad if she didn't have money.
_____________________________________________________
3. If Matthew didn't really like it, he wouldn't buy it.
_____________________________________________________
4. If you didn't pass the audition, what would you do?

_____________________________________________________
5. If today were not Sunday, tomorrow wouldn't be Monday.
_____________________________________________________
6. Would you buy a new house if you didn't have enough money?
_____________________________________________________
7. If it didn't rain, she wouldn't go home by bus.
_____________________________________________________
8. If Jane didn't know English well, she couldn't get this job.
_____________________________________________________
9. If she isn't here, she won't see him.
_____________________________________________________
10. We would have gone there if we hadn't known the truth.
_____________________________________________________
11. If it doesn't stop raining, our family won't have a picnic.
_____________________________________________________
12. I wouldn't buy a jet if I weren't a millionaire.
_____________________________________________________
M.3
Wish
wish หมายถึง ปรารถนา ใช้พูดในสถานการณ์ที่หวังให้เหตุการณ์ที่ผลลัพธ์

มันน่ าจะออกมาเป็นอีกแบบ หรือเราเสียใจในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว วันนี้ จะมาอธิบาย
วิธีการใช้งาน wish ในรูปแบบ 5 ประโยคที่แตกต่างกันตาม tense ที่ตามหลังดังนี้
Wish + Past simple...
Wish + Past simple (V.ช่อง 2) ใช้พูดในกรณีที่เราอยากจะให้สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ใน

ปัจจุบัน หรือจะเกิดในอนาคต มีความต่างไปจากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เป็นเพราะว่า
เรารู้แล้วว่าสิ่งนั้ นมันไม่ดี และเราอยากจะเปลี่ยนแปลง
Wish + S + V 2
Ex. I wish I drank more milk while I was a kid.
(ฉันน่ าจะดื่มนมให้มากกว่านี้ ตอนยังเป็นเด็ก (จะได้สูงๆกว่านี้ ))
Ex. I wish I had a job with better pay.

(ฉันอยากจะได้งานที่จ่ายเงินดี ๆ กว่านี้ (จะได้เอามาจ่ายหนี้ สินมากมาย)
Wish + Past Continuous...
Wish + Past Continuous จะใช้พูดในกรณีที่เราอยากทำอะไรที่ต่างออกไปจากสิ่ง

ที่กำลังทำอยู่ตอนนี้
Wish + S + was / were + Ving
Ex. I wish I was surfing the internet now. (I’m working hard now)
(ฉันหวังว่าจะเล่นเนตอยู่ตอนนี้ (แต่จริง ๆ แล้วกำลังทำงานหนั กมาก)
Ex. I wish you were traveling with me to Egypt next week. (You are not going)
(ฉันหวังว่าเธอจะไปอียิปต์กับฉันอาทิตย์หน้ า (แต่จริง ๆ แล้วเธอไม่ไป)
Wish + Past Perfect...
Wish + Past Perfect จะใช้พูดในกรณีที่เราอยากจะแก้ไขสิ่งที่ได้ทำลงไปแล้วใน

อดีต เป็นการแสดงความรู้สึกเสียใจ รู้สึกผิดกับอีกฝ่าย
Wish + S + had + V 3
Ex. I wish I hadn’t done it. (I did it…)

(ฉันได้แต่หวังว่าฉันไม่ได้ทำมันลงไป (แต่จริง ๆ แล้วทำลงไปแล้ว)
Ex. I wish I hadn’t lost money! (I lost it already..)
ฉันไม่น่ าทำเงินหายเลย (แต่ทำหายไปแล้ว)
M.3
Wish
Wish + would...
Wish + Would จะใช้พูดในกรณีที่เราอยากจะให้เกิดอะไรขึ้น หรืออยากให้บางคน

เริ่มทำอะไรได้แล้ว หรืออยากให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำที่น่ ารำคาญสักที
Ex. I wish the movie would start.

(ฉันหวังว่าหนั งจะฉายสักที (หลังจากที่รอมานาน))
Ex. I wish you would listen to me; I made a mistake before.

(ฉันหวังว่าเธอน่ าจะฟังฉันนะ ฉันทำผิดพลาดมาแล้ว (แต่เธอก็ยังไม่ฟัง)
Wish + to Infinitive...
Wish + to Infinitive ใช้พูดแทนคำว่า want หรือการที่เราแสดงความต้องการอะไร

บางอย่าง โดยมักใช้ในสถานการณ์ที่เป็นทางการมากกว่าปกติหรือแสดงความ
ปรารถนาที่มากกว่าการต้องการทั่วไป
Ex. I wish to make a complaint to manager, the food is really bad!

(ฉันอยากจะขอพบผู้จัดการค่ะ อาหารมันแย่มาก ๆ)
Ex. I wish to be there with you my darling.

(ฉันอยากจะไปอยู่ตรงนั้ นกับเธอจังที่รัก)
สรุป
การใช้ wish กับการปรารถนาที่ไม่เป็นจริง
wish ปัจจุบัน = S + wish + s + V2
wish อนาคต = S + wish + s t would I could + V1
wish อดีต = S + wish t s + had + Vs
M.3
Wish
Direction : Write the new sentences by using "wish".
Example : I can not swim.

I wish I could swim.
1. Jane doesn't love David.

David _____________________________________________.
2. My son isn't here now.

I _________________________________________________.
3. She won't join the party next week.

Bob _______________________________________________.
4. I don't know who is singing.

I _________________________________________________.
5. My son doesn't study harder.

Susan _____________________________________________.
6. He won't go with us tomorrow.

We _______________________________________________.
7. Leena can't speak Thai.

Leena _____________________________________________.
8. It's raining now. We can't go out.

We _______________________________________________.
9. Jack doesn't live in Thailand.

Does Jack ________________________________________.
10. Bob doesn't study history every day.

Bob _____________________________________________.
11. Ben will be a football player.

His father ________________________________________.
12. Jim is a poor man.

Jim ______________________________________________.
M.3
Wish
Example : I worked in Bangkok.

I wish I hadn't worked in Bangkok.
1. I was unlucky last month.

I _______________________________________________
2. Hunny didn't take a taxi to work yesterday.

Hunny __________________________________________
3. We didn't have a good time at the party.

We _____________________________________________
4. My father didn't stay home last night.

I _______________________________________________
5. He went to the concert with her.

She _____________________________________________
6. I told you the whole story yesterday.

I _______________________________________________
7. You spent so much money on clothes yesterday.

Did you _________________________________________
8. You had a selfish friend.

You ____________________________________________
9. Betty wasn't very happy during the last holidays.

Betty ___________________________________________
10. Tom had no girlfriend after leaving school.

Tom ___________________________________________
M.3
Wish
1. She was the most beautiful girl two years ago.

She ________________________________________________
2. She married him last year.

She ________________________________________________
3. She went to the concert with them yesterday.

Did you _____________________________________________
4. I gave her all my money.

I __________________________________________________
5. He was not rich last year.

At that time he wished ______________________________
1. We wish we ___________ home last week.

a. were b. have been c. are d. had been
2. I wish I ________ a bird. I want to fly like a bird.
a. am b. was c. were d. would be
3. A : Was Judy late again?
B : Yes, she was.
A : I wish she _______ late again.
a. hadn't been b. wouldn't be c. weren't d. wasn’t
4. I wish we _______ here tomorrow.
a. will be b. would be c. had been d. were
5. I wish I ________ French soon.
a. spoke b. had spoken c. would spoke d. could speak
M.3
Conjunctions
Direction : Combine the sentences. (Clause of Time)
1. I always think of my mom. I am eating this soup. (while)

_____________________________________________________________
2. They will take a shower. They hear the bell. (when)

_____________________________________________________________
3. Tom reaches home. Mary will be watching TV. (when)

_____________________________________________________________
4. Everything must be perfect. The show starts. (before)

_____________________________________________________________
5. My parents come back. Please wait here. (until)

_____________________________________________________________
6. I will give it back. I finish reading it. (as soon as)

_____________________________________________________________
7. Think of me. You see this watch. (whenever)

_____________________________________________________________
8. I go to work. I usually feed my dogs. (before)

_____________________________________________________________
9. She is sad. She always cries loudly. (when)

_____________________________________________________________
10. You can leave here. You want to. (whenever)

_____________________________________________________________
11. I may buy it. I have seen it. (after)

_____________________________________________________________
12. I had time. I have made that furniture. (since)

_____________________________________________________________
M.3
Conjunctions
Direction : Combine the sentences. (Clause of Cause)
1. Toney didn't go to school. He broke his leg. (because)

_________________________________________________________________
2. It is Lisa's birthday. I buy her a present. (for)

_________________________________________________________________
3. The workers can't work. It is raining. (because of)

_________________________________________________________________
4. Toney didn't go to school. He broke his leg. (because of)

_________________________________________________________________
5. Her eyesight is bad. She doesn't drive. (on account of)

_________________________________________________________________
6-7: I didn't join the party. I was busy. (since) (on account of)
6. _______________________________________________________________
7. _______________________________________________________________
8. The plane didn't land on time. It rained heavily. (seeing that)

_________________________________________________________________
9. Jong and Cullen weren't in our team. The coach didn't choose them. (now that)
_________________________________________________________________
10. No one supported us. Our project was rejected. (as)

_________________________________________________________________
M.3
Conjunctions
Direction : Combine the sentences. (Clause of Manner)

**เปลี่ยนกริยาในประโยคตาม มาให้แล้ว
1. Leena speaks English fluently. She were a foreigner. (as if)

_____________________________________________________________
2. Her hair stood on end. She had seen a ghost. (as though)
_____________________________________________________________
3. He greets me. It were his own house. (as if)

_____________________________________________________________
4. He knew everyone. He says "Hello" to everyone. (as though)

_____________________________________________________________
5. He ate quickly. He hadn't eaten for a long time. (as if)

_____________________________________________________________
6. He had drunk too much alcohol. Dick tottered down the road. (as if)
_____________________________________________________________
7. I told you. Do it carefully. (as)

_____________________________________________________________
8. Mike is a good policeman. I know. (as far as)

_____________________________________________________________
9. He spent money. He were a millionaire. (as if)

_____________________________________________________________
10. This ring looks sparkling. It were made of diamond. (as though)
_____________________________________________________________
M.3
Conjunctions
Direction : Combine the sentences. (Clause of Concession)
1. The weather is bad. He goes to work.

___________________________________________________ (although)
___________________________________________________ (even though)
___________________________________________________ (in spite of)
2. She is very beautiful. He never falls in love with her.

___________________________________________________ (even if)
___________________________________________________ (despite)
___________________________________________________ (though)
3. He didn't drink much. He was very thirsty.

___________________________________________________ (despite)
___________________________________________________ (in spite of)
4. I studied hard. I got bad grades.

________________________________________________ (in spite of the fact that)
___________________________________________________ (in spite of)
5. She tries to answer that problem. It is the most difficult one.

__________________________________________________ (despite the fact that)
___________________________________________________ (despite)
___________________________________________________ (even though)
___________________________________________________ (even if)
M.3
Conjunctions
Direction : Combine the sentences. (Clause of Purpose)
1. Tone works hard. He might pass all exams. (so that)

_____________________________________________________________
2. We eat healthy food. We can be healthy. (in order that)
_____________________________________________________________
3. I didn't tell a lie. He was angry. (for fear that)
_____________________________________________________________
4. I helped him. He might finish it in time. (for the purpose that)
_____________________________________________________________
5. I got up earlier. I wanted to take the first train.
_______________________________________________________ (in order to)
_________________________________________________________ (so as to)
_____________________________________________________________ (to)
6. He took the escalator. He intended to go downstairs.
_____________________________________________________________ (to)
_________________________________________________________ (so as to)
_______________________________________________________ (in order to)
7. We ran through the tunnel under the river. We planned to escape from prison.
_______________________________________________________________ (so as to)
____________________________________________________________________ (to)
_____________________________________________________________ (in order to)
8. He spoke softly. He didn't want to wake up anyone.

____________________________________________________ (in order not to)
_______________________________________________________ (so as not to)
9. He phoned her. He could warn her about being in danger.
______________________________________________________(in order that)
_______________________________________________________ (so that)
10. He phoned her. She might be in danger.
_____________________________________________________ (for fear that)
M.3
Conjunctions
Direction : Combine the sentences. (Clause of Result)
1. This soup is very hot. I can't eat it.

__________________________________________________________ (so_that)
__________________________________________________________ (too_to)
2. Danny is very strong. He can swim across the river.

________________________________________________________ (enough_to)
3. Henry is quite old. He can make his own decision.

__________________________________________________________ (so_ that)
_________________________________________________________ (enough_to)
4. He is very good at English. He can get a good job.

________________________________________________________ (so_that)
_________________________________________________________ (enough to)
5. He is a good doctor. He deserves to be called an angel doctor.

________________________________________________________ (such that)
6. Peter Agre was an excellent chemist. He got the Nobel Prize in Chemistry
in 2003.
__________________________________________________________ (such_that)
7. There are very many people. I can not tell who is who.
___________________________________________________________ (so that)
___________________________________________________________ (too to)
8. There is very much milk. He can not drink it all.

___________________________________________________________ (so_that)
_____________________________________________________________ (too to)
9. It was very dirty water. Nobody could drink it.

__________________________________________________________ (such_that)
10. Mr. Dickson is a very famous writer. His books are sold out.
__________________________________________________________ (such_that)
คำกริยาที่แสดงความรู้สึก.. M.3
Verb + ed / Verb + ing
Verb เติม – ed
สำหรับ Verb ที่เติม –ed นั้ น ให้จำไว้ว่า ความหมายของคำจะแปลว่า รู้สึก... เช่น
Interest + ed = interested (รู้สึกสนใจ)

bore + ed = bored (รู้สึกเบื่อ)
excite + ed = excited (รู้สึกตื่นเต้น)
disgust + ed = disgusted (รู้สึกขยะแขยง)
amuse + ed = amused (รู้สึกสนุก)
shock + ed = shocked (รู้สึกตกใจ)
confuse + ed = confused (รู้สึกสับสน)
ตัวอย่างรูปประโยค เช่น
She was shocked when she saw her ex-husband.

(เธอรู้สึกตกใจเมื่อเธอเห็นสามีเก่า)
Are you interested in jazz music?

(คุณสนใจเพลงแจ๊สไหม)
Verb เติม - ing

เห็นรูป verb ตามด้วย –ing เมื่อไร ให้จำไว้เสมอว่า คำนั้ นแปลว่า น่า... เช่น
Interest + ing = interesting (น่ าสนใจ)

bore + ing = boring (น่ าเบื่อ)
excite + ing = exciting (น่ าตื่นเต้น)
disgust + ing = disgusting (น่ าขยะแขยง)
amuse + ing = amusing (น่ าสนุก)
shock + ing = shocking (น่ าตกใจ)
confuse + ing = confusing (น่ าสับสน)
ตัวอย่างรูปประโยค เช่น
The movie is very interesting.

(หนั งเรื่องนั้ นดูน่ าสนใจมากเลยนะ)
I don’t understand this English grammar. It’s confusing.

(ฉันไม่เข้าใจไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรื่องนี้ มันดูน่ าสับสน)
M.3
คำกริยาที่แสดงความรู้สึก..
Direction : Write the sentences as the example.
1. The cartoon amuses me. (at)

The cartoon is amusing.
I am amused at the cartoon.
2. Her pictures confused me. (with)

___________________________________________________
___________________________________________________
3. His flowers pleased her. (with)

___________________________________________________
___________________________________________________
4. My good marks surprise Mr.Jonathan. (at)

___________________________________________________
___________________________________________________
5. A new job interests Tony. (in)

___________________________________________________
___________________________________________________
6. His words convinced them. (by)

___________________________________________________
___________________________________________________
7. The traffic noise will disturb the students. (with)

___________________________________________________
___________________________________________________
8. His story frightened me. (with)

___________________________________________________
___________________________________________________
9. This question tires us. (of)

___________________________________________________
___________________________________________________
10. Tom's lectures bored the listeners. (with)

___________________________________________________
___________________________________________________
M.3
คำกริยาที่แสดงความรู้สึก..
Direction : Complete the correct form of the verbs.
1. The long story ________________ (bore) us very much yesterday.
2. His experiment was ___________________ (confuse).
3. The children are always _______________ (excite) by the circus.
4. The good news is _________________ (interest).
5. Her song was a ________________ (please) one.
6. Are the children _____________ (frighten) by the thunders?
7. Do the thunders always _____________ (frighten) the children.
8. Yes. Because the thunders are ______________ (frighten).
9. Helen always ____________ (attractive) the boys.
10. Helen is _____________ (attractive).
11. The boys are ____________ (attractive) with Helen.
12. Don't tell a ____________ (frighten) story to the children.
13. She is ____________ (interest) in swimming.
14. Dancing is ____________ (interest).
15. English isn't very ____________ (bore), I always get good marks.
16. Is basketball a _____________ (tire) sport?
17. Maths is not an _____________ (amuse) subject.
18. We were all _______________ (surprise) at his performance.
19. Jack is a _____________ (bore) man.
20. We were ____________ (exhaust) by the long journey.

M.3
Direct and Indirect Speech

(Reported Speech)
Direction : Write the questions.
1. A dog is licking its tail under the table.

What ___________________________________________________?
Where __________________________________________________?
2. An ant is an insect.
What ___________________________________________________?
3. This is your book.

Which __________________________________________________?
4. Peter opened those doors.

Who ____________________________________________________?
What ___________________________________________________?
5. She likes red roses.

What ___________________________________________________?
What color ______________________________________________?
6. He died two years ago.

When __________________________________________________?
7. That big car is Tony's.

Whose __________________________________________________?
8. Tom is a policeman.
What ___________________________________________________?
Who ____________________________________________________?
M.3

(Reported Speech)
Direction : Change to Indirect Speech.
1. He says, "I am drinking milk."

_______________________________________________________
2. She said, "I am the director of Horwang School."

_______________________________________________________
3. I said, "The earth moves round the sun."

_______________________________________________________
4. They will tell you, "We are dancing at the party."
_______________________________________________________
5. Ben said to me, "I had better start my project today."
_______________________________________________________
6. He says, "I was stupid."
_______________________________________________________
7. He says to me, "I am waiting for you now."
_______________________________________________________
8. She says, "I have been telling this story for an hour."
_______________________________________________________
9. She said to me, "He waited for me two days ago."
_______________________________________________________
10. Som says to me, "I want to borrow your car."
_______________________________________________________
11. I shall say to him, "That coffee is too hot for you to drink."
_______________________________________________________
12. I advise him, "You should stay indoors."
_______________________________________________________
13. He said, "He is coming."
_______________________________________________________
14. The teacher said to them, "You were late for class."
_______________________________________________________
15. "I cooked that soup for you," said I.
_______________________________________________________
M.3

(Reported Speech)
Direction : Write in the Indirect Command Form.
1. He said to me, "Stop talking like that." (ask)

____________________________________________________________
2. The woman said to her servant, "Make me a cup of coffee." (order)
____________________________________________________________
3. He said to his soldiers, "Put the guns down." (command)
____________________________________________________________
4. Sam said, "Let's take a nap in this room." (urge)
____________________________________________________________
5. Tony said to me, "Tell me your name, please." (beg)
____________________________________________________________
6. The teacher said to the student, "Don't be lazy." (tell)
____________________________________________________________
7. Jane said to Tom, "Pass it to me." (ask)
____________________________________________________________
8. The policeman said to the thief, "Raise your hands." (command)
____________________________________________________________
9. She said to him, "Wait for me." (ask)
____________________________________________________________
10. She said to him, "Don't kill that fish." (tell)
____________________________________________________________
11. His parents said to their son, "Don't forget to write." (order)
____________________________________________________________
12. He said, "Let's work faster." (suggest)
____________________________________________________________
13. I said to him, "Please go on writing." (ask)
____________________________________________________________
14. They said to me, "Don't forget to lock the door before leaving." (tell)
____________________________________________________________
15. I said to her, "Take care yourself carefully." (warn)
____________________________________________________________
M.3

(Reported Speech)
Direction : Change the following sentences from Direct to Indirect.
1. "Where does she live ?"

He asks me ___________________________________________________
He wants to know _____________________________________________
He wonders __________________________________________________
2. "What time is it ?"

Ask her ______________________________________________________
Can you tell me _______________________________________________
I don't know __________________________________________________
3. "What is she doing now ?"

Do you know __________________________________________________
I don't understand ____________________________________________
Tell me ______________________________________________________
4. "Why did Tom cry ?"

I wonder _____________________________________________________
I ask him _____________________________________________________
She will ask you _______________________________________________
5. "Do you like it ?"

I don't remember _____________________________________________
She asks him _________________________________________________
I wonder ____________________________________________________
6. "What color hair does he have ?"

Don't you remember ___________________________________________
Please tell me _________________________________________________
I would like to know ___________________________________________
7. "Why did you do that ?"

I wondered ___________________________________________________
She asked me _________________________________________________
He asked her _________________________________________________
M.3

(Reported Speech)
Direction : Choose the best answer about "say and tell".
1. He (says / tells) that he loves me.

2. They (say / tell) me that they are singers.
3. The police (say to / tell to) their friends to stop walking.
4. She (said / told) "Hello" to me.
5. We (say to / tells) her, "You are lucky."
6. She (tells / says) me that she has been here once.
7. (Tell / Say) them to move back.
8. Please (say / tell) him what to do.
9. He (said to / told to) the servant, "Bring me a glass of water."
10. Mark (said / told) he didn't like the party.
11. She is (saying / telling) her mother about her life.
12. (Tell / Say) what you think.
Direction : Fine the error.
1. He said to us that he had written it for two hours.

a b c d
2. He told me that he will see me there the next day.

a b c d
3. She said that it was always cold in winter.

a b c d
4. We told them that you had to study harder.

a b c d
Pronouns M.3
Pronoun คือ คำสรรพนาม เป็นคำที่ใช้เรียกแทนคำนาม เพื่อเป็นการเลี่ยง
ใช้คำนามเดิมซ้ำ ๆ อันได้แก่ คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ แบ่งเป็น 5 ประเภทดังนี้
Subject Pronouns (สรรพนามประธาน) - I, You We, They, He, She, It
Object Pronouns (สรรพนามกรรม) - Me, You, Us, Them, Him, Her, It
Possessive Adjectives (คุณศัพท์เจ้าของ) - My, Your, Our, Their, His,

Her, Its
Possessive Pronouns (สรรพนามเจ้าของ) - Mine, Yours, Ours, Theirs, His,

Hers, Its
Reflexive Pronouns (สรรพนามสะท้อน) - Myself, Yourself, Ourselves,

Themselves, Himself, Herself, Itself
สรุปตารางคำสรรพนาม
M.3
Pronouns

1. A : Are all of the books in (you, your, yours) library interesting?
B : Yes, all of (they, them, theirs).
2. A : Was all of the rice in the rice - cooker eaten?
B : No, not all of (it, they, them). Some was left.
3. Nobody likes (he, himself, him).
4. Would (you, I, your) mind giving (me, I, you) some money?
5. It's (she, herself, her) birthday. Both of (we, us, our) buy (she, her,
herself) something.
6. Let (me, you, I) give (you, yourself, yours) a little advice. Don't eat
in the library!
7. A few of (you, your, yours) friends are smiling.

8. (We, Her, Me) have two sons. All of (them, they, theirs) are taller
than (we, ours, us) are.
9. There is a glass on the table. Please pass (it, them, one) to (I, my, me).
10. That car is too expensive for (us, we, I) to buy.
11. Whatever (she, him, you) does, it doesn't matter.
12. Teachers use pictures so that (they, their, theirs) students
won't be bored.
13. You'd better not dress (you, yourself, your) too thick, or you'll be hot.
14. The children are playing in the playground. (They, Their, Theirs)
parents are watching (us, they, them).
15. You should always obey (our, your, their) parents.
16. I shouldn't have bought (he, his, him) that beer.

17. You made (I, me, myself) cry.
18. Which car belongs to (his, he, him)?
19. I don't know who (he, him, himself) is.
20. Where does (her, I, she) live?
M.3
Present simple tense / Present progressive tense
M.3
Direction : Choose the correct tense of verbs.
1. He (smiles, smile, is smiling) to me whenever he sees me.

2. Uncle Jack (works, work, is working) hard these days.
3. Peter (is meeting, meet, meets) his parents at 6 p.m. this evening.
4. In Thailand people (don't kiss, doesn't kiss, aren't kissing) each other
in the public.
5. I always (buy, buys, are buying) lottery but I never (wins, win,
is winning) the prize.
6. (Do you smell, Are you smelling, Are you smell) something?
I (think, am thinking, thinks) something (burns, burn, is burning).
7. The first flight to Phuket (take, takes, is taking) off the air-port at 8.30
8. We (are thinking, think, are think) about the trip to Chiangmai.
9. The teacher can't (see, sees, seeing) the students because they
(play, playing, are playing) football.
10. The sun (shine, shines, is shining) by day, the moon (shine, shines,
is shining) by night.
11. The players will start the match as soon as the whistle (blow, blows,
is blowing).
12. I (am, amn't, am being) late now.
13. The soup (tastes, is tasting, taste) salty.
14. They (are liking, likes, like) the show they (watch, watching,
are watching).
15. There (Tony comes, Tony coming, comes Tony)!
16. Here (the police are, are the police, the police are being)!
17. Lee (write, writes, is writing) for a living.
18. What (is he doing, does he do, he is doing) with that big black bag?
19. That cat (looks, look, is looking) for her kid.
20. Natalee (has, have, is having) got big black eyes.
M.3
Direction : Write the correct form of verbs in parentheses by using

Present Simple or Present Progressive.
1. The students (be) __________ always afraid of teachers.
2. Lazy students never (study) __________ hard at school.
3. A : Where (be) _________ Jane?
B : She (do) __________ her work in the room.
4. Bob (wash) ___________ his clothes on Saturdays.
5. I (take) __________ a bath twice a day. I (do) _________ right now.
6. We (play) __________ tennis this term.
7. Bob and Peter (sail) __________ their yacht in the sea these days.
8. I (have) _________ breakfast at half past seven and (have) ________
my lunch at half past twelve in the afternoon.
9. Mark usually (bring) _________ his lunch to school.
10. My first class (begin) ________ at eight and (finish) ________ at nine.
11. People (wear) __________ thin clothes in summer.
12. Jenny (like) _________ swimming in the lake and she (swim) _________
at this time.
13. Leena always (do) ___________ homework at home.
14. Tone (come) __________ in while Non (read) __________.
15. That camera (belong) __________ to John.

M.3
Present perfect tense / Past simple tense
สรุปความแตกต่างระหว่าง Present Perfect กับ Past Simple
** รูปปฏิเสธของ Present Perfect Tense : เติม not หลัง have/has เป็น haven’t /hasn’t
รูปประโยคคำถามของ Present Perfect Tense : นำ have/has มาขึ้นต้นประโยค
*** รูปปฏิเสธของ Past Simple Tense : ใช้กริยาช่วย Did not (didn’t) + V.1
รูปประโยคคำถามของ Past Simple Tense : ใช้ Did + V.1
M.3
Direction : Put the verb in parentheses into the Past Simple or

Present Perfect Tense.
1. I (break) my leg in the accident last month.

_____________________________________________________________
2. Tom never (see) that movie before.
_____________________________________________________________
3. Tony (be) to China twice.
_____________________________________________________________
4. It's 2 p.m. now and I not (eat) anything today.
_____________________________________________________________
5. I (switch) on the light in your room.
_____________________________________________________________
6. We (go) to the zoo many times.
_____________________________________________________________
7. It (rain) very heavily last week.
_____________________________________________________________
8. It (rain) very heavily all day long.
_____________________________________________________________
9. I already (do) my homework.
_____________________________________________________________
10. Our village (be improved) a lot recently.
_____________________________________________________________
11. They (live) in this house only three years.
_____________________________________________________________
12. The accident (occur) at 9 o'clock this morning.
_____________________________________________________________
13. When I (come) here, a big dog was lying in the yard.
_____________________________________________________________
14. They (study) at this school up to now.
_____________________________________________________________
15. Tom just (come) in and already (leave).
_____________________________________________________________
M.3
Direction : Choose the correct answer.
1. I (eat, ate, have eaten) in this restaurant many times.
2. (Since, For, Yet) the last year, we (lived, have lived, live) in this village.
3. I (write, wrote, have written) to apply the job last month, but nobody
(reply, replied, has replied) to me.
4. Henry (did not buy, has not buy, has not bought) a new pair of shoes
since then.
5. Tim and Tom (have just graduated, just graduated, just have graduated)
from Oxford University.
6. They improved their work (several times, lately, last week).
7. (Did, Has, Was) the President (make, made, makes) a speech last night?
8. Tod usually (get, got, gets) up late when he was young.
9. (Up to now, Last month, Long time ago) I have worked here.
10. Tone (lived, has lived, lives) in Thailand since he (is, was, were) young.
11. He (was, has been, was been) in this house lately.
12. We have been in this school (already, since, for) the past two years.
13. (Has, Have, Did) you ever been abroad?
14. I (turned, have turned, was turned) on the lights. You can see everything
in the room clearly.
15. When she arrived the hotel, she (unpacked, has unpacked, have unpacked)
the suitcase, (took, taked, has taken) out her clothes and (change, changed,
has changed) her clothes to take a bath.

M.3
Present Perfect Continuous Tense
โครงสร้างของ Present Perfect Continuous Tense
Subject + has / have + been + V.ing + Object
has / have ผันตามประธาน ดังนี้

ประธานเป็นเอกพจน์ (He, She, It, John, Jane) ใช้ Has
ประธานเป็นพหูพจน์ (I, You, We, They, The dogs, Students) ใช้ Have
หลักการใช้ Present Perfect Continuous Tense

1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เช่น
Lisa has been living in New York since 2004.
ลิซ่าอาศัยอยู่ที่นิ วยอร์กตั้งแต่ปี 2004
(อาศัยอยู่ตั้งแต่ปี 2004 และตอนนี้ ก็ยังอาศัยอยู่ที่นิ วยอร์ก)
My sister has been talking on the phone for an hour!

น้ องสาวของฉันคุยโทรศัพท์มาเป็นชั่วโมงแล้ว
(เริ่มคุยตั้งแต่หนึ่ งชั่วโมงที่แล้ว และตอนนี้ ก็ยังคุยอยู่)
2. ใช้พูดแทน Present perfect ได้ในความหมายที่เหมือนกัน

How long have you been learning English?
หรือ How long have you learned English?
คุณเรียนภาษาอังกฤษมาเท่าไหร่แล้ว
Note: กริยาที่ไม่แสดงความต่อเนื่ องของการกระทำจะไม่สามารถใช้ Tense นี้ ได้

เช่น เราจะไม่พูดว่า The clock has been stopping เนื่ องจากคำว่า stop เป็นกริยา
ที่ไม่แสดงความต่อเนื่ อง ดังนั้ นเราจึงต้องพูดว่า The clock has stopped
เพื่อบอกว่านาฬิกาหยุดทำงาน ซึ่งผลของการกระทำคือเข็มนาฬิกาไม่เดิน
ตัวอย่างของกริยาที่ไม่แสดงความต่อเนื่ อง เช่น believe, cost, dislike, envy,

forget, hate, know, like, love, need, see, taste, understand หรือ want
เป็นต้น นอกจากนี้ จะไม่ใช้ just, already, never, finally
กับ Present Perfect Continuous Tense
M.3
Direction : Write the sentences with Present Perfect Continuous Tense.
1. Jong (study) __________________________________ English all day.
2. Tommy (repair) ___________________________ his motorbike. He has got
some oil on his hands and clothes.
3. They (study) ________________________ Japanese for three months now.
4. How long (you, live) ____________________________ in that big house?
5. She (not, live) ______________________________ in London very long.
6. What (you, do) ___________________________ all this morning? It's nearly
midday now.
7. It (rain) _____________________ heavily since two o'clock this afternoon.
8. I (play) ____________________________ tennis all morning.
9. He (work) __________________________ here since February.
10.Mrs. Jenny (teach) _____________________________ here for ten years.
11. Jupiter (not, feel) ___________________________ well for over a week.
12. Jong and Cullen (go) ____________________ out together since evening.
It is midnight now.
13. The boys are playing football right now. They (play) ________________
for three hours.
14. She is growing flowers. She (dig) _______________________ all morning.
15. Tone is still in his room. He (sleep) _______________________ since then
until now.
M.3
Direction : Write the correct form of verb by using

Present Perfect Continuous Tense.
1. I feel very sleepy. I (do) my homework all night. Now I (finish) it.
________________________________________________________________
2. Jammy (read) books all day. She (read) at least three subjects.
________________________________________________________________
3. My son (play) football with friends. I am waiting for him.

________________________________________________________________
4. A : You look tired.

B : Sure, I (check) all the rooms of this building for almost three hours.
I (finish) them now.
________________________________________________________________
5. Jupiter is making cookies. She (make) many pieces of them for two hours.
________________________________________________________________
6. I am an English teacher. I (teach) here for ten years.

________________________________________________________________
7. Someone (switch) on the lights in the class. I can see everything clearly.
________________________________________________________________
8. Leena (save) nearly twenty hundred baht since January.

________________________________________________________________
9. I'm sorry. I (break) your glass.

________________________________________________________________
10. She (live) in this hut for five years now.

________________________________________________________________
M.3
Direction : Write the correct form of verbs.
1. Look at this. It is my old book. I (not see) ____________________ since
I left school.
2. It (snow) _____________________ for five hours. If it doesn't stop now,
I can't go back home.
3. He (watch) ___________________ this match since nine o'clock.
The game will stop in five minutes.
4. I know you (know) ___________________ her for two years.
5. The secretary (type) ____________________ that project all day.
6. A : How long you (try) __________________ to solve this big problem?
B : For many hours now.
7. Her eyes are red. She (cry) ____________________ so hard.
8. The streets are flood. I think it (rain) ______________________ all night.

M.3
Past Continuous Tense
Past continuous tense เป็นประโยคที่กล่าวถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่ องใน

อดีตเสมือนว่าเรานั่ งไทม์แมชชีนไปจ้องมองดูเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีตอย่างไรอย่าง
นั้ นเลย เพื่อให้เข้าใจ เรามาดูโครงสร้างประโยคก่อนค่ะ
โครงสร้างประโยค Past continuous tense
ประโยคบอกเล่า
S + was/were + V.ing
He was playing football yesterday at 10 am.
ประโยคปฏิเสธ
S + was/were + not + V.ing
He was not playing football yesterday at 10 am.
ประโยคคำถาม
Was/Were+ S + V.ing
Was he playing football yesterday at 10 am?
ทบทวนเพิ่มเติม หลักการใช้ Was / Were Subject ประธานประโยค
Verb to be ที่ใช้ (กริยาช่อง 2 ของ is และ are)

I, He, She, It, A cat (ประธานเอกพจน์ ) ใช้ was
You, We, They, Cats (ประธานพหูพจน์ ) ใช้ were
Past continuous tenseใช้เล่าถึงเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งมีด้วยกัน 3 แบบ คือ
1. เหตุการณ์ที่กำลังเกิดในอดีต เช่น
It was raining yesterday at noon.
(ฝนตกลงมาเมื่อวานตอนเที่ยง)
2. เหตุการณ์ที่กำลังเกิดต่อเนื่ องอยู่ในอดีต ซึ่งเกิดขึ้นอยู่ก่อน แล้วก็มีอีกเหตุการณ์

หนึ่ งเข้ามาแทรก เช่น
I was having a beautiful dream when the alarm clock rang.
(ฉันกำลังฝันดีอยู่เชียว นาฬิกาปลุกก็ดันดังขึ้น)
3. เหตุการณ์กำลังเกิดไปพร้อม ๆ กันในอดีต ไม่มีอันไหนเกิดก่อนเกิดหลัง เช่น

While my mom was cooking, my dad was washing his car.
(ขณะที่แม่กำลังทำอาหาร พ่อก็กำลังล้างรถ)
M.3
การใช้ While, When, As

While, When, as ถือว่าเป็น Key word สำคัญที่บ่งบอกว่าประโยคนี้ เป็นประโยค
Past continuous tense เลยก็ว่าได้ เช่น
When the police arrived, we were sleeping.
(ตอนที่ตำรวจมาถึง พวกเรากำลังนอนหลับกันอยู่)
While she was drawing a picture, I came in the room.

(ขณะที่เธอกำลังวาดภาพ ผมก็เข้ามาในห้อง )
เทคนิคการจำ
ประโยคที่อยู่หลัง while และ as ใช้ past continuous (Subject + was/were +V.ing)
เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ยังจะเกิดต่อเนื่ องไปอีกระยะหนึ่ ง เช่น We were sleeping,
The car was running, She was drawing a picture
ประโยคที่อยู่หลัง when ใช้ past simple (Subject + V.2) เพราะเป็นเหตุการณ์ที่

แทรกเข้ามาสั้น ๆ และจบไปแล้ว พูดง่าย ๆ ว่าเกิดขึ้นแป๊บเดียว เช่น the police
arrived, the phone rang, I came in the room, it started to rain
M.3
Direction : Write the correct form of the verbs in the parentheses

with Past Simple or Past Continuous Tense.
1. I (meet) _____________ Mr. Henry while I (walk) _______________ home.
2. Judy (cook) ______________ lunch when the doorbell (ring) ____________.
3. The light (go) _____________ out when they (play) ______________ tennis.
4. He (read) ______________ while I (type) ________________ my report.
5. Nick (drink) _______________ coffee alone at 6 o'clock yesterday evening.
6. The teacher (come) _________ in while the students (play) ________ games.
7. When I (arrive) ___________ home, my parents (watch) ___________ TV.
8. As we (walk) ___________ to school this morning, we (see) __________ a cat.
9. I (drive) _____________ home when my car (crash) ____________ the tree.
10. What you (do) ____________ when I (call) _____________ you?
I (wash) _____________ my clothes.
11. I (lose) ____________ my watch while I (walk) __________ around the castle.
12. They (play) ____________ football when it (rain) __________ in the morning.
13. All last night I (do) ____________ my report.
14. You (buy) _____________ some books when I (see) ____________ you.
15. She (sleep) _____________ in her room at that time.

M.3
Direction : Combine two sentences.
1. Jack fell down. He was running to work. (while)

_____________________________________________________________
2. I was there with my aunt. I helped her in the farm. (while)

_____________________________________________________________
3. I was having a bath. Someone knocked my door. (when)

_____________________________________________________________
4. Ted arrived home. Anna was waiting for him. (when)

_____________________________________________________________
5. Mark was swimming in the woods. Someone stole his clothes. (while)
_____________________________________________________________
6. My father found a big metal box. He was digging in the garden. (as)
_____________________________________________________________
7. They were studying English. We were studying Maths. (while)

_____________________________________________________________
8. I was watering the plants. It began to rain. (when)

_____________________________________________________________
1. At this time last night, I ___________ TV.

a. watching b. watched c. was watching d. am watching
2. Mark __________ Jupiter off at the airport when his car __________.
a. was seeing / was crashing b. saw / was crashed
c. saw / crashed d. was seeing / crashed
3. When I ________ home, it _______ hard.
a. was reaching I rained b. reached / was raining
c. reached / rained d. was reaching / was raining
4. He ________ to see her every day last summer.
a. came b. is coming c. was coming d. coming
M.3
Past Perfect Tense
Past Perfect Tense เป็นประโยคที่มี 2 เหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีต โดยเหตุการณ์หนึ่ ง

จบลงไปแล้ว จึงเกิดอีกหนึ่ งเหตุการณ์ขึ้น
เหตุการณ์แรก ใช้ Past Perfect
เหตุการณ์ที่ 2 จบลงแล้ว ใช้ Past Simple Tense (Subject + V.2) โดยมักมีคำเชื่อม เช่น
when, before ระหว่าง 2 เหตุการณ์นี้ เพื่อให้เข้าใจง่าย มาดูประโยคตัวอย่างค่ะ
ข้อสังเกต
เนื่ องจาก 2 เหตุการณ์นี้ จะเกิดขึ้นในอดีตในเวลาใกล้เคียงกัน และจุดเด่นของ
Past Perfect Tense คือใช้เล่าถึงเหตุการณ์หนึ่ งซึ่งจบไปแล้วอีกเหตุการณ์จึงค่อย
เกิดขึ้น ดังนั้ น เราจึงมักพบคำเชื่อมประโยค เช่น after, already, just, yet, until, till,
as soon as, when, by the time
I had waited for 2 hours before they arrived.
(ฉันรอมาแล้ว 2 ชั่วโมงก่อนที่พวกเขาจะมาถึง)
After the guests had left, I went to bed.

(หลังจากที่แขกกลับแล้ว ฉันถึงได้เข้านอน)
Before I went to my house, I had had* a car accident.

(ก่อนที่ฉันกลับบ้าน ฉันเกิดอุบัติเหตุรถชน)
*had ตัวหลังในประโยคนี้ คือ Verb 3 ของ have นะคะ
By the time they came here, I already had finished my work.

(ในตอนที่พวกเขามาที่นี่ ฉันทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว)
My dad had not arrived by the time I left.

(พ่อยังไม่มา ตอนที่ฉันออกจากบ้าน)
M.3
Past Perfect Tense
Direction : Write the correct form of verbs by using Past Perfect Tense.
1. I (sleep) _______________ in that armchair when Tom woke me up.
2. I wish my dad (not die) ______________________.
3. He told me that he (finish) _________________ his work.
4. If she (drive) _____________ carefully, she wouldn't have had an accident.
5. By the time the sun rose, he (leave) __________ home.
6. Toney (go) _____________ out before Jim came in.
7. I (read) ____________ this letter three times before I replied.
8. He told me that he (never know) ___________________ her before.
9. I felt better after I (take) ____________ a nap.
10. When we reached the school, the bell (ring) _________________.
11. We (close) ___________ the windows when the storm started.
12. I could fix it after I (try) _____________ many times.
13. I (have) ___________ dinner when the lights went out.
14.My parents (go) ____________ to bed before I arrived home.
15. When they got to the park, the concert (already start) _______________.
16. By the time I got home, everybody (finish) _____________ dinner.
17. He asked me when I (go) _____________ to bed.
18. She told me that she (wait) _____________ for him since 8 o'clock.
19. I called the police as soon as the thief (go) ____________ out.
20.We wouldn't leave the class until we (finish) ____________our exercises.

M.3
Past Perfect Tense
Direction : Write the correct form of the verb by using Past Simple Tense
or Past Perfect Tense.
1. Lisa (not see) ________________ the Emeral Buddha Temple before

she (visit) _______________ Thailand last week.
2. She (ask) _____________ me why I (come) _____________ so late.
3. When I (get) _____________ to the theater, the play (already start)
______________ .
4. She (wait) _____________ for a long time before the doctor (treat)
__________________ her.
5. My son (not go) _______________ to bed before I (arrive) _____________.
6. She (order) ____________ a steak after she (have) ____________ a drink.
7. Jong (be) ___________ so sad as soon as he (make) ___________ a mistake.
8. Tom (tell) ___________ Bob that he (forget) ____________ his guitar
at school.
9. Peter (hurry) _____________ back home after he (hear) _____________
the bad news.
10. By the time the match (start) ______________ , we (reach) _____________
the stadium.
11. After the sun (set) _____________ , I (turn) ____________ on the lights.
12. They (sign) ____________ their names before they (go) _____________
out the room.
13. I (arrive) _____________ home when it (began) _____________ to rain.
14. I (be) _________ shock as soon as I (see) __________ the horrible picture.
15. We (not see) ______________ each other for many years before
the last meeting.
16. The patient (die) _________ by the time the ambulance (arrive) _________.
17. The bus (leave) ____________ the station when the enemy (drop)
_____________ a bomb.
18. I (say) ____________ goodbye to my family before I (move) ____________
to New York last week.
19. She (have) ___________ breakfast after she (take) _____________ a bath.
20.By the time he (die) _____________, he (sell) _____________ his house.
M.3
Future Simple Tense
Future Simple Tense เป็น Tense ที่พูดถึงเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

เช่น ฉันจะทำนั่ น ฉันจะทำนี่
โครงสร้างของ Future Simple Tense
ประโยคบอกเล่า : Subject + will + Verb Infinitive + Object
NOTE: Verb infinitive คือ คำกริยาที่อยู่ในรูปปกติ ไม่มีการผันและ

ไม่มีการเติมสิ่งใดต่อท้าย ตัวอย่างเช่น talk, swim, go
ประโยคปฏิเสธ : Subject + will not (won't) + Verb Infinitive + Object
ประโยคคำถาม : Will/Shall + Subject + Verb Infinitive?
หลักการใช้ Future Simple Tense
1. ใช้กับเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิด หรือมีโอกาสที่จะขึ้นในอนาคต โดยที่เหตุการณ์

นั้ นจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้
Ex. They say it will rain all week.
พวกเขาบอกว่าฝนจะตกตลอดทั้งสัปดาห์เลย (ซึ่งความจริงแล้วฝนอาจจะไม่ตกก็ได้)
Ex. Jane will come to the party.

เจนจะไปงานเลี้ยง (ซึ่งความจริงแล้วเจนอาจจะไม่ไปงานเลี้ยงก็ได้)
2. ใช้ในโครงสร้าง If-clause แบบที่ 1 แสดงถึงเหตุการณ์ที่มีแนวโน้ มจะเกิดขึ้น

เมื่อมีอีกเหตุการณ์หนึ่ งเกิดขึ้นมาก่อน
Ex. If Patrick comes, I will go.
ถ้าแพทริคมา ฉันจะไป
Ex. All the students will be kept in detention if they misbehave.
นั กเรียนทั้งหมดจะถูกลงโทษโดยการกักตัว ถ้าพวกเขาประพฤติตัวไม่ดี
3. ใช้กับการให้สัญญา หรือการเสนอสิ่ง ๆ หนึ่ งให้ผู้อื่น

Ex. I will give you a lift to the university if you want to.
ฉันจะไปส่งเธอที่มหาวิทยาลัยเองถ้าเธอต้องการ
Ex. Will you have some more juice?

คุณจะรับน้ำผลไม้เพิ่มหน่ อยไหม
M.3
Future Simple Tense
หลักการใช้ Future Simple Tense (ต่อ)
4.ใช้กับเหตุการณ์ที่เพิ่งคิดได้ว่าจะทำเดี๋ยวนั้ น ไม่มีการเตรียมตัวมาก่อนล่วงหน้ า
ว่าจะทำ
Ex. Jim: Can we go to the department store?

เราไปห้างสรรพสินค้ากันดีไหม?
Jan: We’ll see.
ขอฉันคิดดูก่อนนะ
NOTE: เราสามารถใช้ shall แทน will ได้ในกรณีที่ต้องการแสดงความจริงใจ

ตั้งใจหรือแสดงความหนั กแน่ นจริงจังของการกระทำ
Ex. Mary shall be glad to see Ken.

แมรี่คงต้องดีใจที่จะได้พบเคน
Ex. I shall be disappointed if she isn’t happy.

ฉันคงต้องผิดหวังถ้าเธอไม่มีความสุข
Ex. Tonight, you shall sleep outside.

คืนนี้ แกจะต้องนอนข้างนอก
M.3
Future Simple Tense
Direction : Write the correct form of Future Simple Tense. By using

the future with will / shall or with be going to.
1. I probably (study) Japanese next term.

______________________________________________________________
2. Maybe I (not) (have) dinner at home tomorrow.
______________________________________________________________
3. Jack (leave) as soon as Tony arrives home.
______________________________________________________________
4. Look out! You (crash) your car.
______________________________________________________________
5. That apple tree (die) soon. Its leaves are all brown.
______________________________________________________________
6. Bob has bought some wood. He (build) the gate.
______________________________________________________________
7. If he comes late, I (not) (wait) for him.
______________________________________________________________
8. I wonder what they (do) next.
______________________________________________________________
9. He (go) back to work after he has had his lunch.
______________________________________________________________
10. I (be) fifty after tomorrow.
______________________________________________________________
11. The test (begin) in half an hour.
______________________________________________________________
12. I (go) out when it stops raining.
______________________________________________________________
13. I (carry) those books for you.
______________________________________________________________
14. How old (be) you next month?
______________________________________________________________
15. There (be) a new school in this city.
______________________________________________________________
M.3
Future Simple Tense
Direction : Write the correct form of Future Simple Tense. By using

the future with will / shall or with be going to.
1. Let's have lunch here, _____________ we?

____________________________________________________________
2. I promise he (give) your money back.
____________________________________________________________
3. You (explain) how to use it, please?
____________________________________________________________
4. A : You (close) the door, please? B : Of course, I ___________.
A : ________________________________________________________
B : ________________________________________________________
5. A : I (help) you? B : Yes, please.
A : ________________________________________________________
B : ________________________________________________________
6. They (can) understand it better by the end of the meeting.
____________________________________________________________
7. Don't be late, _________ you?
____________________________________________________________
8. I hope they (come) back.
____________________________________________________________
9. We (hold) the meeting in this hall next week.
____________________________________________________________
10. That man is blind. He (hit) that lamp post.
____________________________________________________________
11. I (not) (buy) you anything this year. I (send) you a birthday card.
____________________________________________________________
12. A : You (help) me, please? B : Yes, of course I ___________.
A : _________________________________________________________
B : _________________________________________________________
M.3
Affix (word building)
Direction : Write the correct words by using one of the following prefixes
:- in-, in-, un-, dis-, mis-, re-, il-, pre-, en- or ex-.
Prefix
1. _____________ write 16. _____________ agree
2. _____________ possible 17. _____________ birth
3. _____________ understand 18. _____________ appear
4. _____________ wife 19. _____________ history
5. _____________ legal 20. _____________ easy
6. _____________ like 21. _____________ polite
7. _____________ believable 22. _____________ print
8. _____________ correct 23. _____________ just
9. _____________ direct 24. _____________ large
10. _____________ paint 25. _____________ happy
11. _____________ expensive 26. _____________ call
12. _____________ expert 27. _____________ sure
14. _____________ countable 28. _____________ visible
14. _____________ wise 29. _____________ spell
15. _____________ honest 30. _____________ patient

M.3
Affix (word building)
Direction : Write the correct words with the appropriate suffixes :

-es, -ness, -ly, -or,-ful, -less,-ment, -ion, -ous or -ist.
Suffix
1. intent________________ 16. employ ________________
2. agree________________ 17. danger________________
3. good________________ 18. visit________________
4. care________________ 19. careless_______________
5. friend________________ 20. worth________________
6. kind________________ 21. own________________
7. curious_______________ 22. dance________________
8. strange______________ 23. wind________________
9. dark________________ 24. motor________________
10. instruct______________ 25. mud________________
11. fog________________ 26. Buddha________________
12. ill________________ 27. act________________
13. teach_______________ 28. science_______________
14. dirt________________ 29. sad________________
15. direct_______________ 30. novel________________

M.3
Future Continuous Tense
การใช้ประโยคแบบ Future continuous tense ใช้ได้กับเหตุการณ์ 2 แบบ คือ

มีเหตุการณ์หนึ่ งเดียวที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่ นอนในอนาคต โดยมีการระบุเวลา
ในอนาคตไว้ค่อนข้างชัดเจนด้วย เช่น
My brother will be watching a football match tomorrow at 9 am.
พี่ชายของฉันคงกำลังดูการแข่งขันฟุตบอล ในวันพรุ่งนี้ เวลา 9 โมง
โครงสร้างประโยค Future continuous tense
My friend will be doing his homework tonight.
(เพื่อนฉันคงกำลังทำการบ้านอยู่ในคืนนี้ )
The first train will be arriving tomorrow at 6 o’clock.
(รถไฟขบวนแรกจะมาถึงพรุ่งนี้ เวลา 6 โมง)
At 7 o’clock, I will be eating dinner with my family.
(เวลา 1 ทุ่ม ฉันคงกำลังกินอาหารมื้อค่ำกับครอบครัวอยู่)
มี 2 เหตุการณ์ที่คาดว่ากำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต แต่เกิดขึ้นไม่พร้อมกัน เช่น

I will be sleeping when my mom gets home tonight.
(ฉันคงกำลังหลับอยู่ตอนที่แม่มาถึงบ้านคืนนี้ )
โครงสร้างประโยคของ 2 เหตุการณ์
I’ll be preparing the dinner when you come tomorrow evening.
(ฉันคงกำลังเตรียมอาหารค่ำอยู่ตอนที่คุณกลับมาพรุ่งนี้ เย็น)
** เพิ่มเติม: I’ll เป็นรูปย่อของ I will ส่วน I will not ใช้รูปย่อเป็น I won’t **
My boss will be meeting when I arrive tomorrow morning.
(เจ้านายของฉันคงกำลังประชุมอยู่ ตอนที่ฉันไปถึงพรุ่งนี้ เช้า)
ข้อสังเกต : การใช้ Future continuous tense มีความใกล้เคียงกับ Future simple tense

เพราะว่าเป็นการบอกถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้ าเหมือนกัน
แต่แตกต่างกันตรงที่ Future continuous tense จะเห็นภาพเหตุการณ์ชัดเจนกว่ามี
ความแน่ นอนที่จะเกิดขึ้นมากกว่า ลองดู 2 ประโยคข้างล่างนี้ เปรียบเทียบกัน
I will see the doctor tomorrow morning.

ฉันจะไปหาหมอวันพรุ่งนี้ ตอนเช้า (Future simple)
I will be seeing the doctor tomorrow morning.

ฉันคงกำลังพบหมออยู่ในวันพรุ่งนี้ ตอนเช้า(Future continuous)
M.3
Future Continuous Tense
Direction : Supply the correct form of the verbs in parentheses,

using Future Continuous Tense or Present Simple Tense.
1. I (read) __________ my books when my nephew (come) ___________

to my house.
______________________________________________________________
2. She (sleep) ________ in that house all morning tomorrow.
______________________________________________________________
3. What you (do) _________ at this time on Sunday?
______________________________________________________________
4. He (play) ____________ golf at the golf club at 10 o'clock tomorrow.
______________________________________________________________
5. They (have) _________ their lunch when I (call) _________ on them
tomorrow afternoon.
______________________________________________________________
6. Tomorrow night we (fly) ________ to study abroad.
______________________________________________________________
7. This time tomorrow I (drink) ________ coffee at the canteen.
______________________________________________________________
8. The librarian (attend) ________ everyone in the library at 3 o'clock
tomorrow afternoon.
______________________________________________________________
9. The householder (wait) ________ for you when you (move) ________ in.
______________________________________________________________
10. When she (leave) _______ tomorrow, we (watch) _________ TV
in the living room.
______________________________________________________________
11. They (live) ________ in Japan at this time next month.
______________________________________________________________
12. Don't call me from 8 p.m. to 10 p.m. tonight. I (study) ________ then.
______________________________________________________________
M.3
Future Perfect Tense
การใช้ Future Perfect Tense สามารถนำไปใช้ได้กับเหตุการณ์ 2 แบบ คือ

1. มีเหตุการณ์หนึ่ งเหตุการณ์ที่คาดว่าจะสิ้ นสุดลงแล้วในอนาคต เช่น
I will have finished my report by tomorrow.
(ฉันคงจะทำรายงานของฉันเสร็จในวันพรุ่งนี้ )
โครงสร้างประโยค Future perfect tense
ตัวอย่างการใช้ Future Perfect Tense

I will have seen the dentist Friday evening.
(ฉันคงจะหาหมอฟันเสร็จแล้วตอนเย็นวันศุกร์)
We will have eaten dinner at 6 o’clock tomorrow.

(พวกเราคงจะกินอาหารมื้อค่ำกันเสร็จตอน 6 โมงเย็นพรุ่งนี้ )
2. มี 2 เหตุการณ์ โดยในอนาคตจะมีเหตุการณ์หนึ่ งดำเนินมาจนจบสิ้ นลงพอดีกับอีก

เหตุการณ์หนึ่ งเกิดขึ้น เช่น
I will have eaten when you pick me up.
(ฉันคงจะทานข้าวเสร็จแล้วตอนที่คุณมารับ)
โครงสร้างและตัวอย่างประโยคของ 2 เหตุการณ์
The train will have left when we get the station.
(รถไฟคงจะออกไปแล้ว ตอนที่พวกเราไปถึงสถานี )
By the time you read this letter, I will have left.

(ขณะที่คุณอ่านจดหมายนี้ ฉันคงไปแล้วนะ)
The kids will have woken up when we come.

(เด็ก ๆ คงจะตื่นกันแล้วตอนเรากลับมา)
She will have dressed when he picks her up.

(เธอคงจะแต่งตัวเสร็จแล้วตอนที่เขามารับ)
M.3
Future Perfect Tense
Direction : Supply the correct form of the verbs in parentheses,

using Future Perfect Tense or Present Simple Tense.
1. By the end of this semester we (take) __________ 30 courses.

________________________________________________________________
2. By the time that we (reach) _______ the top of the mountain,
the moon (rise) _______.
________________________________________________________________
3. Henry (leave) ________ for school by 8 o'clock in the morning.
________________________________________________________________
4. The maid (clean) _______ your room when you (move) ________ in.
________________________________________________________________
5. I (finish) ________ my breakfast by 9 o'clock this morning.
________________________________________________________________
6. He (eat) _______ all the cake by the time we (get) _________ back.
________________________________________________________________
7. The thief (go) ________ away when the police (come) __________.
________________________________________________________________
8. By the end of December I (live) __________ in this house for two years.
________________________________________________________________
9. They (move) __________ in a new apartment by next week.
________________________________________________________________
10. When he (arrive) ______ at the station, the team (leave) ______ already.
________________________________________________________________
11. Bob (pay) _______ the bill before Jack (walk) _______ out.
________________________________________________________________
12. When the postman (arrive) __________, I (leave) ________ home.
________________________________________________________________
M.3
Future Perfect Continuous Tense
Future Perfect Continuous Tense ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ในอนาคตได้ 2 แบบ
1. พูดถึงเหตุการณ์หนึ่ งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งได้ดำเนิ นต่อเนื่ องมาแล้ว

เป็นระยะเวลาหนึ่ ง และในเวลาอนาคตที่อ้างอิงนั้ นก็ดำเนิ นไปต่ออีกสักพัก มีการระบุ
ระยะเวลาอย่างชัดเจนว่า ได้ดำเนิ นมาแล้วนานเพียงใด เช่น for five minutes, for one
hour, for two weeks เช่น
I will have been studying Chinese for two years next month.
(ฉันคงจะได้เรียนภาษาจีนมาครบ 2 ปีเต็มแล้ว ในเดือนหน้ า)
** ก็คือถ้านั บถึงแค่เดือนนี้ จะยังไม่ครบ 2 ปีและได้เรียนต่อเนื่ องมาได้ระยะหนึ่ งแล้ว ซึ่งก็จะยังคงน่ าจะเรียนต่อไปอีก)
โครงสร้างและตัวอย่างประโยค
2. ใช้พูดถึงสองเหตุการณ์ในอนาคต โดยมีข้อสังเกตว่า ในประโยคจะระบุอย่างชัดเจนว่า

เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นมานานเพียงใดแล้ว จากนั้ นจึงเกิดเหตุการณ์ที่ 2 ตามมา เช่น
My friend will have been reading for three hours by the time I get library.
(เพื่อนของฉันคงจะได้กำลังอ่านหนั งสือเป็นเวลา 3 ชั่วโมงแล้ว ตอนที่ฉันมาถึงห้องสมุด)
โครงสร้างและตัวอย่างประโยคของ 2 เหตุการณ์
The train will have been leaving for 15 minutes when we get the station.
(รถไฟคงจะออกไปแล้ว 15 นาที ตอนที่พวกเราไปถึงสถานี )
They will have been fighting for over an hour by the time the police come.
(พวกเขาคงจะทะเลาะกันนานกว่า 1 ชั่วโมงแล้วตอนที่ตำรวจมาถึง)
They will have been waiting for more than 3 hours when the brand new
shopping mall opens.
(พวกเขาคงจะรอมานานกว่า 3 ชั่วโมงแล้ว ตอนที่ห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่เปิดให้บริการ)
I won’t have been waiting for you for 30 minutes when you arrive.
(ฉันไม่ได้รอคุณมาแล้ว 30 นาทีนะ ตอนที่คุณมาถึงน่ ะ (อาจจะรอมาแล้ว 3 ชั่วโมง)
M.3
Future Perfect Continuous Tense
Direction : Write the verb form of Future Perfect Continuous Tense.
1. By next week he (live) _______ in this house for three months.

____________________________________________________________________
2. The students (read and write) _______ for two hours by the time
the bell (ring) _______ .
____________________________________________________________________
3. By 10 a.m. she (eat) ______ her breakfast at that restaurant.
____________________________________________________________________
4. By the end of this month Mr.Robert (be) _______ in Thailand for a year.
____________________________________________________________________
5. My son (sleep) _______ in the cot for half an hour when I (arrive) ______ home.
____________________________________________________________________
6. When Peter (come) ______ in the room, Mary (wait) ______ for him for an hour.
____________________________________________________________________
7. By midnight it (rain) ______ for two days.
____________________________________________________________________
8. That old man (stand) _______ there for three hours by 5 o'clock.
____________________________________________________________________
9. By 2020 that big tree (stand) _______ near my house for ten years.
____________________________________________________________________
10.Wilson (grow) ________ roses in the garden for two hours when it (rain) _____.
____________________________________________________________________
**ให้สังเกตว่าประโยคต่อไปนี้ มีกริยาที่ไม่สามารถแสดงได้นาน จึงต้องใช้ Future Perfect Tense แทน
11. He (leave) ________ the hotel when I (visit) ________ him.

____________________________________________________________________
12. She (finish) _________ that work by 6 p.m.
____________________________________________________________________
13. By next month he (know) _______ her for a year.
____________________________________________________________________

Worksheet M.3

Uploaded by

Document Informationclick to expand document information

Document Informationclick to expand document information

Copyright:

Available Formats

Worksheet M.3

Uploaded by

Document Information

Copyright

Available Formats

Share this document

Share or Embed Document

Sharing Options

Did you find this document useful?

Is this content inappropriate?

Copyright:

Available Formats

Worksheet M.3

Uploaded by

Copyright:

Available Formats

English Worksheets

Agreement of Object and Verb คือ การใช้รูปกริยาให้สอดคล้องกับประธาน

หลักสำคัญ คือ พิจารณาประธานของประโยค โดยมีข้อสังเกตดังนี้

เมื่อประธานมี 2 ตัว และมี and เป็นตัวเชื่อม

เมื่อประธานเอกพจน์ + and + ประธานเอกพจน์ ซึ่งเห็นชัดเจนว่า

ประธานเอกพจน์ + and + ประธานเอกพจน์ + กริยาพหูพจน์

เมื่อประธานเอกพจน์ + and + ประธานเอกพจน์ ซึ่งมีความหมาย

ประธานเอกพจน์ + and + ประธานเอกพจน์ + กริยาเอกพจน์

เมื่อประธานเป็นคำนามเอกพจน์ + and + คำนามเอกพจน์ โดยที่มี Article

The + คำนามเอกพจน์ + and + คำนามเอกพจน์ + กริยาเอกพจน์

ถ้าประธานเป็นคำนามเอกพจน์ ทั้งสองคำโดยมี Article นำหน้ าทั้ง 2 คำ

The + คำนามเอกพจน์ + and + the + คำนามเอกพจน์ + กริยาพหูพจน์

A + คำคุณศั พท์ + and + คำคุณศั พท์ + คำนามเอกพจน์ + กริยาเอกพจน์

ถ้าคำคุณศัพท์ทั้ง 2 มี Aricle นำหน้ าทั้งคู่ แสดงว่าประธานนั้ นเป็น

A + คำคุณศั พท์ + and + a + คำคุณศั พท์ + คำนามเอกพจน์ + กริยาพหูพจน์

ให้สังเกตการใช้ Here และ There ขึ้นต้นประโยค

There + are + คำนามพหูพจน์

เมื่อใช้ Here และ There ในรูปประโยคอุทานก็ให้ใช้กริยาตามพจน์

Here กริยาเอกพจน์ + คำนามเอกพจน์!

There กริยาพหูพจน์ + คำนามพหูพจน์!

Here สรรพนามเอกพจน์ + กริยาเอกพจน์!

There สรรพนามพหูพจน์ + กริยาพหูพจน์!

เมื่อประธานของประโยคมี วลีหรือกลุ่มคำขยายตามหลัง ซึ่งไม่มีส่วน

เมื่อประธาน + of + คำนาม ให้ยึดประธานหน้าประโยคเป็นหลัก

A box of chalk is on the teacher's table.

เมื่อประธานเชื่อมด้วย a with, together with, as well as, along with, including,

Tom with his brothers is playing football,

เมื่อมีประโยค Relative Clause มาขยาย กริยาที่ใช้ให้ใช้ตามคำนามที่ Relative

Tom who has the shortest hair is my hero.

We don't trust people who tell lies.

ถ้าหน้ าคำ Relative Pronoun นั้ นมี one of the + คำนามพหูพจน์

การใช้คำว่า number นำหน้าคำนามให้ดู Article เป็นหลัก

A number of books are in the big box.

ใช้ The number of + นามพหูพจน์ จะใช้กริยาในรูปเอกพจน์

The number of members in this club is up to one hundred.

คำสรรพนามผสมที่ไม่ชี้เฉพาะเจาะจงของ -one, -body, -thing, -where,

Someone is knocking at the front door.

คำนามที่มีความหมายเป็นกลุ่ม (Collective Noun) ได้แก่ family, band,

ถ้าประธานมีความหมายถึงหน่ วยเดียว กริยาจะเป็นเอกพจน์ สรรพนามคือ It

เช่น Our family lives in that house.

ให้สังเกตการใช้คำต่อไปนี้ คือ each, every, one of, a little, much, one,

การใช้คำต่อไปนี้ ได้แก่ both, many, several, a few คำเหล่านี้ เมื่ออยู่ใน

การใช้คำบอกจำนวนที่ใช้ได้ทั้งคำนามนั บได้และนั บไม่ได้ ได้แก่

Most (of the)

Most (of the)

คำนามบางคำมีรูปเป็นเอกพจน์ แต่มีความหมายเป็นพหูพจน์ ได้แก่ people, police,

The cattle are in the ranch.

คำนามบางคำมีรูปเดียวกันทั้งเอกพจน์ และพหูพจน์ ได้แก่ fish, deer, sheep,

คำนามบางคำมีรูปเติม s, es แต่ใช้ในรูปคำนามเอกพจน์ ได้แก่ วิชาต่างๆ

*** คำเหล่านี้ ถ้าใช้ในการชี้เฉพาะเจาะจงหรือเป็นแนวความคิดทั่วไป จะใช้กริยา

ชื่อโรคต่างๆ (เช่น mumps (คางทูม), measles (โรคหัด) เป็นต้น) และยังมีคำที่มัก

Bad news is never happy.

เมื่อเราใช้ Article "the" นำหน้ คำคุณศัพท์ ซึ่งทำให้คำคุณศัพท์กลาย

The + คำคุณศั พท์ + กริยาพหูพจน์ เช่น

คำนามที่เกี่ยวกับชื่อหนั งสือ, น้ำหนั ก, เงิน, ระยะทางหรือเวลาที่อยู่ในรูป

The Little Women is a well-known book.

คำนามบางคำจะต้องใช้ในรูปพหูพจน์ เสมอ เพราะไม่มีรูปเอกพจน์ จึงเป็น

คำนามที่เป็น Abstract Noun คือคำนามที่บอกอาการ คุณลักษณะ