มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์
ตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ | |
คติพจน์ | Fiat lux (ละติน) |
---|---|
คติพจน์อังกฤษ | Let There Be Light |
ประเภท | สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ |
สถาปนา | 23 มีนาคม พ.ศ. 2411 |
ทุนทรัพย์ | $3.03 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐ[1] |
อธิการบดี | Carol T. Christ |
ผู้ศึกษา | 42,519 (2561) |
ปริญญาตรี | 30,853 (2561)[2] |
บัณฑิตศึกษา | 11,666 (2561)[2] |
ที่ตั้ง | , , |
วิทยาเขต | เขตเมือง Main Campus 178 acres Total 6,679 เอเคอร์ (2,703 เฮกตาร์)[3] |
รางวัลโนเบล | 71[4] |
Yearbook | {{{free2}}} |
สี | Yale Blue California Gold |
ฉายา | Golden Bears |
เครือข่าย | AAU IARU Pacific-12 University of California |
มาสคอต | Oski the Bear |
เว็บไซต์ | berkeley |
มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ (อังกฤษ: University of California, Berkeley) เป็นมหาวิทยาลัยรัฐ ตั้งอยู่ในเมืองเบิร์กลีย์ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองซานฟรานซิสโก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มหาวิทยาลัยก่อตั้งในปี พ.ศ. 2411 (ค.ศ. 1868)[5] และเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในบรรดากลุ่มมหาวิทยาลัยในแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์มีชื่อเสียงในหลากหลายด้านเช่น ประวัติศาสตร์ วรรณกรรม วิทยาศาสตร์ รวมถึงมีการค้นพบไซโคลตรอน (cyclotron) โดย เออร์เนสต์ ลอว์เรนซ์ และมีการค้นพบธาตุเคมี 17 ธาตุใหม่ การพัฒนาอินเทอร์เน็ต การพัฒนายูนิกซ์ BSD และซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ซ ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลกมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ติดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกลำดับที่ 4 สำหรับการจัดอันดับของ Academic Ranking of World Universities เก็บถาวร เมษายน 25, 2013 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ของปี 2012 และ อันดับที่ 5 สำหรับการจัดมหาวิทยาที่มีชื่อเสียงของ Times Higher Education ของปี ค.ศ. 2013 สำหรับนักศึกษาที่อาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย จะมีค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนเรียนและค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 12,876 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อปี (ปี พ.ศ. 2555) ส่วนนักศึกษาปริญญาตรีที่มาจากที่อื่นจะมีค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนเรียนและค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 35,754 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อปี (ปี พ.ศ. 2555) ในปี พ.ศ. 2555 มีนักศึกษาทั้งหมด 35,899 คน เป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีจำนวน 25,574 คน พื้นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยหากมองจากมหาวิทยาลัยจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของอ่าวซานฟรานซิสโก และสะพานโกลเดนเกตได้
ในส่วนของที่พัก มหาวิทยาลัยจะให้สิทธิ์การเข้าพักในบ้านพักนักศึกษาแก่นักศึกษาปี 1 และปี 2 ทั้งนี้มีองค์กรนักศึกษา และชมรมกว่า 700 แห่งตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัย ตั้งแต่องค์กรเกี่ยวกับการเมือง ไปจนถึงชมรมเครื่องร่อน และอื่นๆ เบิร์กลีย์ ยังมีสมาคมสร้างความสัมพันธ์รุ่นพี่รุ่นน้อง (Greek) ซึ่งประกอบด้วยสมาคมนักศึกษาชายและหญิงรวมกันกว่า 55 แห่ง อีกทั้งทีมกีฬา แคลิฟอร์เนียโกลเด้นแบร์ ของมหาวิทยาลัยเป็นหนึ่งใน 12 ของ Pacific-12 Conference (กลุ่มมหาวิทยาลัยที่อยู่ทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกาชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก 12 แห่ง ที่รวมตัวกันเพื่อแข่งขันกีฬาระหว่างสถาบัน ปัจจุบันจัดการแข่งขันกีฬาประเภทชาย 11 รายการ ประเภทหญิงอีก 11 รายการ ที่สำคัญเช่น อเมริกันฟุตบอล (ชาย), บาสเกตบอล (ชายและหญิง), เบสบอล (ชาย), ซอฟต์บอล (หญิง), โปโลน้ำ (ชายและหญิง) เป็นต้น) และเป็นที่ทราบดีว่ามหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ มีธรรมเนียมการแข่งขันกีฬาร่วมกับมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) อยู่เสมอ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ประกอบด้วยคณะและวิทยาลัยต่างๆ รวมทั้งสิ้น 14 แห่ง รวมไปถึงบัณฑิตวิทยาลัย และสถาบันเพื่อศึกษาเฉพาะด้าน ได้แก่
- College of Chemistry
- College of Engineering
- College of Environmental Design
- College of Letters and Science
- College of Natural Resources
- Graduate School of Education เก็บถาวร มีนาคม 31, 2013 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Graduate School of Journalism
- Haas School of Business
- Goldman School of Public Policy
- School of Information
- School of Law
- School of Optometry
- School of Public Health
- School of Social Welfare
มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเบิร์กลีย์ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1868 ในฐานะ College of California และ the Public Agricultural, Mining, และ Mechanical Arts College ใน Oakland, Berkeley จึงถือเป็นแคมปัสที่เก่าแก่ที่สุดในเครือของ University of California (UC). เบิร์กลีย์เป็นเหมือนแม่พิมพ์การเรียนการสอนแบบ "classical" และ "practical" สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สถาบันนี้เป็นเหมือนสถาบัน flagship ในเครือ University of California.[6][7] เบิร์กลีย์ได้ร่วมงานกับองค์กรใหญ่ๆอีก 3 องค์กร คือ United States Department of Energy National Laboratories ที่มี the Los Alamos National Laboratory อยู่ในเครือ, Lawrence Livermore National Laboratory และ Lawrence Berkeley National Laboratory ที่เป็นของ U.S. Department of Energy
คณะอาจารย์ ศิษย์เก่า และนักวิจัย 71 ท่านที่ได้รับรางวัล รางวัลโนเบล (มี 28 ท่านที่เป็นศิษย์เก่า), 9 Wolf Prizes, 7 Fields Medals, 15 Turing Awards, 45 MacArthur Fellowships,[8] 20 Academy Awards, และ 11 Pulitzer Prize ณ ปัจจุบัน นักวิจัยของมหาวิทยาลัยเบิร์กลีย์ ได้ค้นพบ 6 ธาตุเคมีในตารางธาตุ (Californium, Seaborgium, Berkelium, Einsteinium, Fermium, Lawrencium) และ Berkeley Lab ได้ค้นพบอีก 16 ธาตุทั้งหมด ซึ่งถือได้ว่าค้นพบเยอะกว่ามหาวิทยาลัยอื่นๆในโลก.[9] ปัจจุบันนี้มีนักเรียนไทยที่เป็นศิษย์เก่าจำนวนกว่า 200 คนและกำลังศึกษาอยู่ใน มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ จำนวนกว่า 60 คน โดยได้จัดตั้งองค์กร สมาคมนักเรียนไทย ณ มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียเบิร์กลีย์ เก็บถาวร มีนาคม 5, 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนขึ้นมา หรือที่เรียกกันว่า Thai Students Association @ UC Berkeley (ThaiSA) เก็บถาวร พฤษภาคม 9, 2013 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เพื่อเป็นตัวแทนในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาชิกในภูมิภาคอื่นๆและยังเป็นตัวแทนทางด้านการเผยแพร่วัฒนธรรมของประเทศไทย
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "UC Annual Endowment Report, Fiscal Year Ended June 30, 2012; p.4" (PDF). Office of the Treasurer of the Regents of the University of California. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ February 2, 2013. สืบค้นเมื่อ 2013-01-07.
- ↑ 2.0 2.1 "UC Berkeley Enrollment Data". University of California, Berkeley. สืบค้นเมื่อ July 29, 2012.
- ↑ ."UC Financial Reports – Campus Facts in Brief" (PDF). University of California. November 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2020-07-12. สืบค้นเมื่อ November 17, 2012.
- ↑ List of Nobel laureates affiliated with the University of California, Berkeley List of Nobel laureates affiliated with the University of California, Berkeley
- ↑ UC Berkeley: Facts at a glance
- ↑ "History of UC Berkeley". University of California, Berkeley. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 8, 2011. สืบค้นเมื่อ 2013-03-27.
Founded in the wake of the gold rush by leaders of the newly established 31st state, the University of California's flagship campus at Berkeley has become one of the preeminent universities in the world.
- ↑ Berndahl, Robert (October 8, 1998). "The Future of Flagship Universities". University of California, Berkeley. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 7, 2011. สืบค้นเมื่อ 2013-03-27.
The issue I want to talk about tonight is the future of "flagship" universities, institutions like the University of Texas at Austin, or Texas A&M at College Station, or the University of California, Berkeley. This is not an easy topic to talk about for a number of reasons, not the least of which is the fact that those of us in "systems" of higher education are frequently actively discouraged from using the term "flagship" to refer to our campuses because it is seen as hurtful to the self-esteem of colleagues at other institutions in our systems.
- ↑ Maclay, Kathleen (September 28, 2010). "Two young faculty members named MacArthur "genius" fellows". Newscenter.berkeley.edu. สืบค้นเมื่อ 2012-06-08.
- ↑ "Chemical Elements Discovered at Lawrence Berkeley National Laboratory". Lbl.gov. June 7, 1999. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-12. สืบค้นเมื่อ February 21, 2011.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- รายชื่อนักเรียนไทย ที่ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ เก็บถาวร 5 มีนาคม 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- สมาคมนักเรียนไทย ที่ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ThaiSA
- เว็บไซต์มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์
- สมาคมนักเรียนไทย ที่ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ เก็บถาวร 21 กุมภาพันธ์ 2006 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- แนะนำมหาวิทยาลัยทั่วโลก เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน