ข้ามไปเนื้อหา

หญ้าคา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

หญ้าคา
Imperata cylindrica ที่ซูซามิ จังหวัดวากายามะ ประเทศญี่ปุ่น ที่มีหัวเมล็ดที่โตเต็มที่
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ แก้ไขการจำแนกนี้
อาณาจักร: พืช
Plantae
เคลด: พืชมีท่อลำเลียง
Tracheophytes
เคลด: พืชดอก
Angiosperms
เคลด: พืชใบเลี้ยงเดี่ยว
Monocots
เคลด: Commelinids
Commelinids
อันดับ: อันดับหญ้า
Poales
วงศ์: หญ้า
Poaceae
วงศ์ย่อย: Panicoideae
Panicoideae
สกุล: Imperata
Imperata
(L.) P.Beauv.[1]
สปีชีส์: Imperata cylindrica
ชื่อทวินาม
Imperata cylindrica
(L.) P.Beauv.[1]
ชื่อพ้อง

ดูข้อความ

หญ้าคา (ชื่อวิทยาศาสตร์: Imperata cylindrica Beauv.) เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในตระกูลหญ้า มีลำต้นสูงประมาณ ๕๐-๑๐๐ เซนติเมตร ลักษณะลำต้นเป็นทรงกลมเรียวยาวขนาดเล็ก ลักษณะใบเป็นขนกระจุก ขอบใบมีลักษณะคมกริบ ออกดอกเป็นช่อก้านยาวสีขาว คล้ายหางกระรอก มีสรรพคุณในการรักษาโรคได้หลายชนิด เช่น โรคไต โรคมะเร็งคอ แก้ลมพิษ ผื่นคัน เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้ประโยชน์จากหญ้าคาในการมุงหลังคา

ชื่ออื่น ๆ

[แก้]

คาหลวง , คา (ภาคกลาง) ลาแล , ลาลาง มลายู และ เก้อฮี (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

[แก้]

มีเหง้าสีขาวแข็งอยู่ใต้ดิน ลำต้นตั้งตรงสูงถึง15 - 20 เซนติเมตร มีกาบใบโอบหุ้มอยู่และริมกาบใบจะมีขน ตัวใบจะเรียวยาวประมาณ 1 - 2 เมตร กว้างประมาณ 4 - 18 มิลลิเมตร มีขนเป็นกระจุกอยู่ระหว่างรอยต่อของตัวใบและกาบใบ ดอกมีสีขาวอมเหลือง หรือเป็นสีม่วง เป็นช่อยาวประมาณ5 เซนติเมตร

แหล่งที่พบ

[แก้]

สามารถพบได้ทั้งในพืชไร่ พืชสวนและพื้นที่รกร้าง ว่างเปล่า สามารถขึ้นได้ดีในดินทุกชนิด สามารถทนต่อแสงแดดและความร้อนได้ดี

สรรพคุณ

[แก้]

ใช้ลำต้นสดหรือแห้ง นำมาปรุงเป็นยาแก้โรคไต แก้โรคมะเร็งคอ และแก้ฝี , ดอก ใช้เป็นยาแก้ปัสสาวะแดง แก้ไอ แก้มะเร็งในลำไส้ แก้ริดสีดวงต่าง ๆ , ราก ใช้ปรุงกินเป็นยาแก้ร้อนใน แก้พิษอักเสบในกระเพาะปัสสาวะ แก้น้ำดีซ่าน ตาเหลือง และเบื่ออาหาร นอกจากนี้หญ้าคายังให้แร่ธาตุไนโตรเจน, ฟอสฟอรัส, โปแทสเซียมอย่างมาก , ทำให้ดินร่วนซุย ทำให้ออกซิเจนลงไปในดิน ได้สะดวก ทำให้ไม่แน่น , มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับพืชตระกูลถั่วคือ ถ้าเน่าเป็นปุ๋ยแล้ว จะสามารถป้องกันเพลี้ยและแมลงต่างๆได้

ประโยชน์

[แก้]

ส่วนของใบ ใช้ปรุงเป็นยาต้มอาบ ผื่นคัน แก้ลมพิษ และแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย ส่วนของดอก ใช้ปรุงเป็นยารับประทานแก้ปวด นำมาตำเป็นยาพอกแผลอักเสบ บวมฝีมีหนอง และ อุจจาระเป็นเลือด ราก ใช้ปรุงเป็นยา แก้ร้อนใน แก้ไอกระหายน้ำ เป็นยารับประทานเพื่อห้ามเลือด แก้เลือดกำเดาไหล และแก้พิษอักเสบในกระเพาะอาหาร

ชาวโอรังอัซลีในรัฐเปรัก ประเทศมาเลเซียใช้ผงแห้งของต้นใช้โรยแผลป้องกันการติดเชื้อ[2]

ในฐานะเป็นพืชเศรษฐกิจ ใช้ประโยชน์ในการมุงหลังคา กระท่อม คอกเลี้ยงหมู เล้าไก่ เล้าเป็ด สามารถกันแดดกันฝนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้หลังคาหญ้าคายังให้ความเย็นได้ดีกว่าการมุงหลังคาจากกระเบื้อง และสังกะสีซึ่งมีราคาแพงกว่าหญ้าคาหลายเท่าตัว และอายุการใช้งานของหลังคาหญ้าคาสามารถใช้ได้นานถึง 3 - 5 ปี ขึ้นอยู่กับความหนาของคาที่ใช้และนอกจากนี้ยังใช้ประโยชน์ในการจักสานอีกด้วย จึงนับได้ว่าหญ้าคากลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้แก่เกษตรกรเป็นอย่างมาก

โทษ

[แก้]

1.หน่อของหญ้าคาแหลมคมมาก ถ้าเดินเข้าไปโดยไม่ระมัดระวัง จะทิ่มแทงฝ่าเท้า ทำให้เกิดความเจ็บปวดได้

2.เนื่องจากหญ้าคาเป็นวัชพืช สามารถขึ้นได้ตามพื้นที่รกกร้าง ไร่หรือท้องนา ทำให้ชาวไร่ชาวนาส่วนมากไม่ค่อยชอบ

3.เมื่อนำไปมุงหลังคาบ้าน หรือกระท่อม ไม่ค่อยทนทาน และถ้าดูแลไม่ดี อาจจะเกิดอัคคีภัย ก่อให้เกิดความเสียหาย แก่ทรัพย์สินได้

ลักษณะจำเพาะของหญ้าคา

[แก้]

1.ไม่ชอบบริเวณที่น้ำแฉะ

2.เจริญเติบโตได้ดีในที่ดอน และทุกฤดูกาล

3.ถ้าหากไปเผา-เกี่ยวหรือตัด จะแตกหน่อขึ้นมา จากพื้นดิน อย่างรวดเร็ว

การขยายพันธุ์

[แก้]

เป็นพรรณไม้ที่ขึ้นได้ดีใน ดินทุกชนิด ทนต่อความร้อน และแสงแดดได้ดี ขยายพันธุ์ด้วยการใช้เหง้า หรือเมล็ด

การเป็นพืชพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน

[แก้]

หญ้าคาเป็นพืชต่างถิ่นรุกราน(invasive alien species) และเป็นวัชพืชอายุหลายปีแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วด้วยการแตกหน่อจากไหลใต้ดินที่มีใบเกล็ดปกคลุมและการกระจายตัวของเมล็ด หญ้าคาสามรถผลิตเมล็ดได้มากถึง 3,000 เมล็ดต่อต้น เจริญเติบโตได้ดีทั้งในดินที่แห้งและดินที่ชื้นและสามารถขึ้นปกคลุมพื้นที่โล่ง หรือ บริเวณที่ถูกทำลายได้ดีมาก[3]

หญ้าคาสร้างความเสียหายต่อพรรณพืชดั้งเดิมคือ แก่งแย่งธาตุอาหารและน้ำ ทำให้กล้าไม้อื่น ๆ ไม่สามารถขึ้นอยู่ได้เป็นเหตุทำให้พืชดั้งเดิมลดจำนวนลง บริเวณที่มีหญ้าคาปกคลุม พื้นที่บริเวณนั้นจะไม่มีพืชชนิดอื่น เนื่องจากหญ้าคาจะมีการปล่อยสารยับยั้งการเจริญเติบโตของพืชอื่น ประกอบกับระบบรากที่มักแผ่กระจายหนาแน่นปกคลุมดินชั้นบนทำให้ยากแก่การงอกของพืชชนิดอื่น และในช่วงฤดูร้อน หญ้าคาที่แห้งเป็นเชื้อเพลิงได้ดีซึ่งเมื่อเกิดอัคคีภัย ทำให้เกิดความเสียหายกับพื้นที่ป่าธรรมชาติบริเวณรอบข้างอย่างมาก หญ้าคาระบาดได้ทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่รกร้างหรือตามพื้นที่เกษตรกรรม พบระบาดมากในทุกพื้นที่ในประเทศไทย ยกเว้นภาคกลางที่มีการระบาดปานกลาง[4]

การกำจัดและป้องกัน

[แก้]

1.ใช้วิธีการเขตกรรม เช่น การถาก ตัดให้สั้นไม่ให้ออกดอก หรือขุดทิ้ง

2.ใช้สารเคมีต่างๆ เช่น มาร์เก็ต ไกลโฟเสต ดาร์ไฟท์ (ไกลโฟเซต, ไอโซโพฟิลามีน ซอลต์) ดามาร์ค (ไกลโฟเลท) ทัชดาวน์ (ไกลโฟเซต ไตรมีเซียมซอลต์)

อนุกรมวิธาน

[แก้]

หญ้าคาได้รับการระบุครั้งแรกโดยลินเนียสใน ค.ศ. 1759 ในชื่อดั้งเดิม (basionym) ว่า Lagurus cylindricus.[5] ก่อนที่Palisot de Beauvois นักกีฏวิทยาและนักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศส จะเปลี่ยนไปใช้ชื่อที่ได้รับการยอมรับเป็น Imperata cylindrica

ชื่อพ้องของหญ้าคามีดังนี้:[6]

  • Imperata robustior A.Chev.
  • Imperata sieberi Opiz
  • Imperata thunbergii P.Beauv.
  • Lagurus cylindricus L.
  • Saccharum cylindricum (L.) Lam.
  • Saccharum europeaum Pers.
  • Saccharum koenigii Retz.
  • Saccharum laguroides Pourr.
  • Saccharum sisca Cav.
  • Saccharum spicatum J.Presl
  • Saccharum thunbergii Retz.

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Imperata cylindrica". Germplasm Resources Information Network (GRIN). Agricultural Research Service (ARS), United States Department of Agriculture (USDA). สืบค้นเมื่อ 2016-04-03.
  2. Samuel, A.J.S.J., Kalusalingam, A., Chellappan, D.K., Gopinath, R., Radhamani, S., Husain, H. A., Muruganandham, V., Promwichit, P. 2010. Ethnomedical survey of plants used by the orang asli in kampong bawong, Perak, West Malaysia. Joutnal of Ethnobiology and Ethnomedicine. 6:5
  3. [ http://chm-thai.onep.go.th/webalien/species.html เก็บถาวร 2016-08-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน],[1]
  4. [2] เก็บถาวร 2016-08-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน,[3],[4]
  5. Wunderlin, R. P., and B. F. Hansen. 2008. Imperata cylindrica. Atlas of Florida Vascular Plants <http://www.plantatlas.usf.edu/>.[S. M. Landry and K. N. Campbell (application development), Florida Center for Community Design and Research.] Institute for Systematic Botany, University of South Florida, Tampa.
  6. แม่แบบ:WCSP
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "Mississippi-2020-12-16" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]