เอเค-102
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
เอเค-102 | |
---|---|
ชนิด | ปืนเล็กยาว |
แหล่งกำเนิด | รัสเซีย |
บทบาท | |
ประจำการ | 1995–ปัจจุบัน |
ผู้ใช้งาน | ดูประเทศผู้ใช้งาน |
สงคราม | ความไม่สงบในจังหวัดอาเจะฮ์[1] ความขัดแย้งปาปัว[1] ปฏิบัติการมาดาโกรายา[1] ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย[2][3] |
ประวัติการผลิต | |
ผู้ออกแบบ | มีฮาอิล คาลาชนิคอฟ |
ช่วงการออกแบบ | 1994 |
บริษัทผู้ผลิต | คาลาชนิคอฟ คอนเซิร์น |
แบบอื่น | เอเค-104, เอเค-105 |
ข้อมูลจำเพาะ | |
มวล | 3.0 กก. (6.6 ปอนด์) ไม่มีกระสุน |
ความยาว | 824 มม. (32.4 นิ้ว) ยืดพานท้าย 586 มม. (23.1 นิ้ว) พับพานท้าย |
ความยาวลำกล้อง | 314 มม. (12.4 นิ้ว) |
กระสุน | 5.56×45 มม. นาโต |
ขนาดลำกล้องปืน | 5.56 มม. |
การทำงาน | แรงดันแก๊ส ลูกเลื่อนหมุนตัว |
อัตราการยิง | 600 นัด/นาที |
ความเร็วปากกระบอก | 850 เมตร/วินาที (2,789 ฟุต/วินาที) |
ระยะหวังผล | 500 เมตร (550 หลา) |
ระบบป้อนกระสุน | แมกกาซีนความจุ 30 นัดแบบถอดได้ |
ศูนย์เล็ง | ศูนย์เปิด มีรางหางเหยี่ยวด้านข้างสำหรับการมองเห็น และศูนย์กลางคืน |
เอเค-102 (อังกฤษ: AK-102) เป็นปืนเล็กยาวในตระกูลเอเค-100 รุ่นสั้นลงของปืนเล็กยาวเอเค-101 ซึ่งได้มาจากการออกแบบดั้งเดิมของเอเค-47 และผู้สืบทอดอย่างเอเค-74 การออกแบบของเอเค-102, เอเค-104 และเอเค-105 นั้นคล้ายคลึงกันมาก ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือขนาดลำกล้องปืนและแบบชนิดแมกกาซีนที่สอดคล้อง ซึ่งเอเค-102 บรรจุกระสุนปืน 5.56×45 มม. นาโต และได้รับการออกแบบมาเพื่อการส่งออกทั้งหมด[4]
การออกแบบ
[แก้]เมื่อเทียบกับเอเค 101 และเอเค 103 ซึ่งเป็นปืนเล็กยาวขนาดเต็มที่มีการออกแบบคล้ายกัน เอเค 102, 104, และ 105 นั้นมีลำกล้องปืนที่สั้นกว่า ซึ่งทำให้พวกมันอยู่ตรงกลางระหว่างปืนเล็กยาวขนาดเต็มและเอเคเอส 74ยู ที่กะทัดรัดกว่า ในขณะที่ปืนเอเค 10เอกซ์ นั้นมีลำกล้องปืนยาวกว่า, ลูกสูบที่ผบักดันด้วยแก๊สเต็มความยาว และแข็ง พานท้ายพอลิเมอร์พับข้างได้ ส่วนเอเคเอส 74ยู นั้นสั้นกว่า และลักษณะพานท้ายเป็นแต่เพียงโครง[5]
โครงปืนเล็กยาวทำจากแผ่นเหล็กพับขึ้นรูป แมกกาซีนมีน้ำหนักเบา และทนทานกว่ารุ่นเก่า ทำจากไฟเบอร์กลาสเสริมความแข็งแรง พานท้ายส่วนก้นทำจากพลาสติก ทำให้มีน้ำหนักเบา มีความทนทานมากขึ้น และเป็นโพรง อนุญาตให้เก็บชุดเครื่องมือสนามไว้ด้านในได้[ต้องการอ้างอิง]
เอเค 102 ใช้ศูนย์เล็งเหล็กหลังที่มีรอยบากสามารถปรับพิกัดใน 100 เมตร (109 หลา) และเพิ่มจาก 100 เมตรเป็น 500 เมตร (109 หลาถึง 547 หลา) ศูนย์หน้าเป็นเสาที่ปรับสูงได้ในสนามรบ ส่วนการปรับแนวนอนทำโดยโรงงานหรือคลังแสงก่อนแจกจ่าย ทั้งนี้ เอเค 102 มีปลอกทวีแรงถอยที่มาจากเอเคเอส 74ยู
ซีรีส์เอเค 100 ผลิตโดยโรงงานอิซห์มาชในอิเซฟก์ ประเทศรัสเซีย
ประเทศผู้ใช้งาน
[แก้]- อินโดนีเซีย: ใช้โดยเหล่ากองพลน้อยเคลื่อนที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย[1]
- มาเลเซีย: การใช้งานจำกัดโดยกำลังการสงครามพิเศษทางเรือของกองทัพเรือมาเลเซีย[6]
- ไทย: ใช้โดยกองอาสารักษาดินแดน[7]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 "Guns of Nusantara: The AK-101 and 102 in BRIMOB Service". conflictfreelance.rs. 6 September 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-05-23. สืบค้นเมื่อ 23 May 2021.
- ↑ "Gunmen Kill 2 Farmers in Thailand's Deep South". Benar News (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-05-16.
- ↑ "Rangers kill rebel suspect in firefight". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2021-05-16.
- ↑ Episkopos, Mark (2018-11-29). "Meet Russia's New Deadly Assault Rifle: The AK-308". The National Interest (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-03-12.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-08-19. สืบค้นเมื่อ 2020-05-07.
- ↑ Jenzen-Jones, N.R. (September 2012). "The 100-Series Kalashnikovs: A Primer". Small Arms Review. Vol. 16 no. 3. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-03-06. สืบค้นเมื่อ 2020-05-07.
- ↑ 7 (2021-05-25). "ด่วน ปืนอาก้า AK 102 หายจากคลังปืนนราธิวาส 28 กระบอก". ข่าวสด. สืบค้นเมื่อ 2021-05-25.
{{cite web}}
: CS1 maint: numeric names: authors list (ลิงก์)