อังเกลา แมร์เคิล
อังเกลา แมร์เคิล | |
---|---|
Angela Merkel | |
นายกรัฐมนตรีเยอรมนี | |
ดำรงตำแหน่ง 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 2005 – 8 ธันวาคม ค.ศ. 2021 (16 ปี 16 วัน) | |
ประธานาธิบดี | |
รองนายกรัฐมนตรี | |
ก่อนหน้า | แกร์ฮาร์ท ชเรอเดอร์ |
ถัดไป | โอลัฟ ช็อลทซ์ |
หัวหน้าสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน | |
ดำรงตำแหน่ง 10 เมษายน ค.ศ. 2000 – 7 ธันวาคม ค.ศ. 2018 (18 ปี 241 วัน) | |
ก่อนหน้า | ว็อล์ฟกัง ช็อยเบลอ |
ถัดไป | อันเนอเกรท ครัมพ์-คาเรินเบาเออร์ |
รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อม อนุรักษ์ธรรมชาติ และความปลอดภัยนิวเคลียร์ | |
ดำรงตำแหน่ง 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1994 – 26 ตุลาคม ค.ศ. 1998 (3 ปี 343 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | เฮ็ลมูท โคล |
ก่อนหน้า | เคลาส์ เทิฟเฟอร์ |
ถัดไป | เยือร์เกิน ทริททิน |
รัฐมนตรีกระทรวงสตรีและเยาวชน | |
ดำรงตำแหน่ง 18 มกราคม ค.ศ. 1991 – 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1994 (3 ปี 303 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | เฮ็ลมูท โคล |
ก่อนหน้า | อัวร์ชูลา เลร์ |
ถัดไป | เคลาดีอา น็อลเทอ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | อังเกลา โดโรเทอา คัสเนอร์ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1954 ฮัมบวร์ค ประเทศเยอรมนีตะวันตก |
พรรคการเมือง |
|
คู่สมรส |
|
ศิษย์เก่า | |
ลายมือชื่อ | |
อังเกลา โดโรเทอา แมร์เคิล (เยอรมัน: Angela Dorothea Merkel) เป็นนักการเมืองชาวเยอรมัน อดีตนายกรัฐมนตรีเยอรมนีระหว่าง ค.ศ. 2005 ถึง 2021 เธอเป็นผู้นำของพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียนตั้งแต่ ค.ศ. 2000 ถึง 2018 แมร์เคิลได้รับการเปรียบเปรยว่าเป็นผู้นำโดยพฤตินัยของสหภาพยุโรป[2] และเป็นสตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก[3] เธอได้รับฉายาว่า นายกฯ หญิงเหล็ก (Eiserne Kanzlerin) นักวิจารณ์จำนวนมากเปรียบเธอเป็นผู้นำแห่งโลกเสรี[4][5][6]
แมร์เคิลเกิดในนครฮัมบวร์ค ประเทศเยอรมนีตะวันตก โดยมีชื่อเกิดว่า อังเกลา โดโรเทอา คัสเนอร์ และย้ายไปยังประเทศเยอรมนีตะวันออกพร้อมกับบิดาขณะที่ยังเป็นทารก นางจบการศึกษาสาขาฟิสิกส์ และจบปริญญาเอกปรัชญาสาขาควอนตัมเคมี และทำงานเป็นนักวิทยาศาสตร์จนถึง ค.ศ. 1989 นางเข้าสู่เส้นทางการเมืองในช่วงการปฏิวัติ ค.ศ. 1989 โดยดำรงตำแหน่งเป็นรองโฆษกรัฐบาลเยอรมนีตะวันออกที่มาจากการเลือกตั้งคณะแรกภายใต้การนำของโลทาร์ เดอ เม็ซซีแอร์ ต่อมาภายหลังการรวมประเทศเยอรมนีใน ค.ศ. 1990 นางได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจากรัฐเมคเลินบวร์ค-ฟอร์พ็อมเมิร์น นางได้รับแต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรีเฮ็ลมูท โคล ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสตรีและเยาวชนใน ค.ศ. 1991 และต่อมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อม-อนุรักษ์ธรรมชาติและความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ในปีค.ศ. 1994 อย่างไรก็ตาม หลังพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียนที่เธอสังกัดพ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง ค.ศ. 1998 เธอก็ได้รับตำแหน่งเลขาธิการพรรค และก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคในอีกสองปีต่อมา
หลังการเลือกตั้งทั่วไป ค.ศ. 2005 เธอได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเยอรมนี และกลายเป็นผู้นำของพันธมิตรที่แข็งแกร่งระหว่างสามพรรคการเมืองอันได้แก่ พรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU), พรรคสหภาพสังคมคริสเตียน (CSU) และพรรคสังคมประชาธิปไตยเยอรมนี (SPD) ต่อมาในการเลือกตั้งทั่วไป ค.ศ. 2009 พรรคของนางชนะเลือกตั้งในสัดส่วนสูงสุดของสภาซึ่งทำให้นางได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัย และในการเลือกตั้งทั่วไป ค.ศ. 2013 พรรคของนางชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายด้วยคะแนนเสียง 41.5% ของผู้มาใช้สิทธิ์[7] และในการเลือกตั้งทั่วไป ค.ศ. 2017 พรรคของนางยังคงเป็นพรรคใหญ่ที่สุดในสภา ทำให้นางดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อเป็นสมัยที่สี่[8]
นายกรัฐมนตรี
[แก้]หลังการเลือกตั้งทั่วไปในปีค.ศ. 2005 พรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียนของนางแมร์เคิลได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล นางแมร์เคิลได้ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีเยอรมนีโดยเสียงข้างมาก 397 ต่อ 217 เสียงในสภา อย่างไรก็ตาม มีผู้แทน 51 คนในพรรคร่วมรัฐบาลที่ลงมติคัดค้านนาง[9]
รายงานข่าวในขณะนั้นระบุว่า รัฐบาลร่วมของแมร์เคิลจะดำเนินนโยบายแบบผสม นโนบายหลักของรัฐบาลร่วมคือการหั่นรายจ่ายภาครัฐพร้อมกับการเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มจากร้อยละ 16 เป็นร้อยละ 19, ขยายระบบประกันสังคม ตลอดจนขยายอัตราภาษีเงินได้ขั้นสูงสุด[10] ในวันที่นางแมร์เคิลประกาศจัดตั้งรัฐบาลร่วม นางได้แถลงว่าพันธกิจหลักของคณะรัฐมนตรีแมร์เคิลคือการมุ่งลดอัตราว่างงาน ซึ่งเธอจะเป็นคนกำหนดและดูแลนโยบายด้านนี้ด้วยตนเอง[11]
ในการเลือกตั้งทั่วไปใน ค.ศ. 2009 พรรคของนางแมร์เคิลได้ที่นั่งมากขึ้นในสภา นางได้พรรคเสรีประชาธิปไตยมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และนางก็ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง เหตุการณ์สำคัญในคณะรัฐมนตรีที่สองได้แก่ วิกฤติหนี้สาธารณะยุโรป, การเลิกเกณฑ์ทหาร, จำนวนคนว่างงานลดเหลือไม่ถึง 3 ล้านคน[12]
พรรคในสังกัดนางแมร์เคิลยังคงได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไป ค.ศ. 2013 (แต่ครั้งนี้พรรคเสรีประชาธิปไตยถอนตัวจากรัฐบาล) และ ค.ศ. 2017 ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งหลังนี้ พรรคของนางครองสัดส่วนที่นั่งในสภาน้อยกว่าที่เคยทำได้ในปีค.ศ. 2013 อย่างมีนัยยะสำคัญ นางจึงพยายามเทียบเชิญพรรคเสรีประชาธิปไตยและพรรคประชาธิปไตยสังคมมาร่วมรัฐบาลแต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้[13][14][15] ประธานาธิบดีชไตน์ไมเออร์ต้องลงมาช่วยเจรจากับพรรคประชาธิปไตยสังคมให้ยอมร่วมรัฐบาล[16]
ชีวิตส่วนตัว
[แก้]อังเกลาสมรสครั้งแรกใน ค.ศ. 1977 กับนายอุลริช แมร์เคิล (Ulrich Merkel)[17] ทั้งคู่หย่าร้างกันในปีค.ศ. 1982 แต่นางยังคงใช้นามสกุลแมร์เคิลต่อไป[18] นางสมรสครั้งที่สองในปีค.ศ. 1998 กับโยอาคิม เบาเออร์ (Joachim Sauer) ศาสตราจารย์ด้านควอนตัมนิวเคลียร์[19] นางเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ในอะพาร์ตเมนต์ของเบาเออร์แทนที่จะพำนักในอาคารสำนักนายกรัฐมนตรี แมร์เคิลไม่มีลูก แต่ศาสตราจารย์เบาเออร์มีลูกชายสองคนซึ่งเกิดกับภรรยาคนเก่า[20] แมร์เคิลเคยถูกสุนัขกัดใน ค.ศ. 1995 ทำให้เธอกลัวสุนัขตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา[21]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Angela Merkel: Her bio in brief". Christian Science Monitor. 20 September 2013.
- ↑ Vick, Karl (2015). "Time Person of the Year 2015: Angela Merkel". Time. สืบค้นเมื่อ 30 April 2017.
- ↑ "The World's Most Powerful Women 2018". Forbes (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-09-18. สืบค้นเมื่อ 30 December 2018.
- ↑ AFP. "Merkel: From austerity queen to 'leader of free world'". www.timesofisrael.com (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 30 December 2018.
- ↑ "German Chancellor Angela Merkel, the newly christened 'leader of the free world,' is preparing to step back from politics — and experts say 'the coming storm is ... quite powerful'". nordic.businessinsider.com. 29 October 2018. สืบค้นเมื่อ 30 December 2018.
- ↑ Clarke, Hilary (30 October 2018). "For years, Angela Merkel saw off all challengers. Now, she's preparing to step aside". CNN. สืบค้นเมื่อ 30 December 2018.
- ↑ "German Chancellor Angela Merkel makes a hat-trick win in 2013 Elections". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 September 2013. สืบค้นเมื่อ 23 September 2013.
- ↑ Oltermann, Philip; Connolly, Kate (14 March 2018). "Angela Merkel faces multiple challenges in her fourth term". the Guardian.
- ↑ "Merkel becomes German chancellor". BBC News. 22 November 2005. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 December 2005.
- ↑ "German coalition poised for power". BBC News. 11 November 2005. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 November 2005.
- ↑ "Merkel defends German reform plan". BBC News. 12 November 2005. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 March 2006.
- ↑ "Arbeitsmarkt: Arbeitslosigkeit 2011 meist unter drei Millionen" [Labour market: Unemployment in 2011 mostly below three million]. Focus online (ภาษาเยอรมัน). 27 October 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-06-21. สืบค้นเมื่อ 2019-06-20.
- ↑ "Koalition: Merkel lädt ab Mittwoch kommender Woche zu Jamaika-Gesprächen". 9 October 2017 – โดยทาง Spiegel Online.
- ↑ Paun, Carmen (7 October 2017). "Angela Merkel Ready to Move Forward with Jamaica Coalition". Politico. สืบค้นเมื่อ 9 October 2017.
- ↑ Connolly, Kate (24 November 2017). "Germany's SPD is ready for talks to end coalition deadlock". Berlin: The Guardian. สืบค้นเมื่อ 24 November 2017.
- ↑ "Bundestag wählt Angela Merkel zum vierten Mal zur Bundeskanzlerin". Neue Zürcher Zeitung. 14 March 2018. สืบค้นเมื่อ 5 April 2019.
- ↑ Online, FOCUS. ""Eines Tages zog sie aus"". FOCUS Online.
- ↑ "Biographie: Angela Merkel, geb. 1954". DHM. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 February 2009. สืบค้นเมื่อ 2 March 2010.
- ↑ "Biographie: Angela Merkel, geb. 1954". DHM. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 February 2009. สืบค้นเมื่อ 2 March 2010.
- ↑ Klatell, James M (9 August 2006). "Germany's First Fella, Angela Merkel Is Germany's Chancellor; But Her Husband Stays Out of the Spotlight". CBS News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 August 2006. สืบค้นเมื่อ 2 March 2010.
- ↑ CNN, Tim Hume. "Putin: I didn't mean to scare Angela Merkel with dog". CNN. สืบค้นเมื่อ 20 July 2016.